หน้าเว็บ

วันจันทร์ที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

มาทำวิจัยกันเถอะ

การทำงานวิจัยไม่ได้เป็น ภาคบังคับอย่างเป็นทางการแบบงานสอน ที่มีตารางสอนระบุชัดเจน งานวิจัยจึงเป็นเหมือนงานรอง ที่ผู้สอนต้องหาเวลาว่างจากงานที่เกี่ยวกับการสอนทั้งหมดมาทำงานวิจัย โดยทั่วไปใครจะคิดทำวิจัยเรื่องอะไรก็คิดอยู่ในบริบทที่ตัวเองถนัด มีความเชี่ยวชาญอยู่แล้ว แต่ผลที่ตามมานั้นก่อให้เกิดประโยชน์อื่นมากมาย ถ้าเป็นไปได้ถ้าผู้สอนได้ใช้ผลที่ได้จากการทำวิจัยมาใช้ ในการสอนด้วยจะทำให้ได้ความรู้ในการสอนที่ทันสมัยกว่า การค้นจากแหล่งข้อมูลวารสาร หรือบทความจากต่างประเทศ ทั้งยังทำให้เกิดการบริหารเวลาระหว่างการสอนและวิจัย ที่จะทำให้เกิดผลงานวิจัยเป็นชิ้นเป็นอันได้ และที่สำคัญก็คือได้มีค่าตอบแทนเพิ่มจากเงินเดือน เพราะผลงานวิจัยที่มีการเผยแพร่รูปแบบต่างๆจะเป็นใบเบิกทางไปสู่การเข้าสู่ ตำแหน่งทางวิชาการ เป็นโอกาสที่จะทำให้มีการก้าวกระโดดของรายได้ ถ้าทำได้เร็ว


นอกจากนี้ยังเป็นเหมือนเครื่องประดับในการทำงาน ประวัติการทำงานจะบันทึกไว้เป็นเอกสารสำคัญประกอบการขอทุนวิจัย หรือการเสนอชื่อเพื่อให้เป็นผู้บริหาร ผู้ที่มีประวัติด้านการวิจัยทั้งการได้รับทุนและการตีพิมพ์ผลงานในวารสาร ระดับชาติและนานาชาติย่อมได้รับความสนใจมากกว่า สรุปได้ว่าการสร้างและทำงานวิจัยล้วนได้รับผลดีแก่ตัวเองและสถาบันอย่างแน่นอน

การทำงานวิจัยยังเป็นการสร้างกระบวนการทำงานร่วมกัน มากกว่าที่จะทำงานวิจัยอยู่เพียงลำพัง งานวิจัยจะมีขนาดใหญ่ขึ้นในเชิงบูรณาการ ซึ่งจะก่อให้เกิดการร่วมมือของผู้เชี่ยวชาญมีทักษะหลายสาขา ทั้งในคณะเดียวกันและต่างคณะหรือแม้แต่ต่างมหาวิทยาลัยกัน และที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งก็คือ ดัชนีชี้วัดความสำเร็จของการบริหารงานของหน่วยงานทั้งในปัจจุบันและอนาคต งบประมาณที่แต่ละมหาวิทยาลัยได้รับการจัดสรร นั้นจะผันแปรหรือขึ้นอยู่กับผลงาน ผลผลิตของมหาวิทยาลัย ที่รวมทั้งการผลิตบุคลากรและผลงานวิจัย ทั้งในเชิงคุณภาพและปริมาณ สุดท้ายจะมีผลย้อนกลับมาสู่งบประมาณสนับสนุน บางมหา วิทยาลัยได้ใช้งานวิจัยเป็นตัวนำเพื่อให้สังคมยอมรับ ในแง่ที่เป็นผู้นำทางการวิจัยและการนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อสังคม และนำหน้าในการได้รับงบประมาณสนับสนุนจากแหล่งทุนวิจัยต่างๆ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น