หน้าเว็บ

วันอาทิตย์ที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

ซีพียูกับระบบปฏิบัติการ

ซีพียูหรือหน่วยประมวลผลกลาง (Central Processing Unit) เป็นชิ้นส่วนสำคัญที่สุดของคอมพิวเตอร์ เป็นเหมือนมันสมองของคอมพิวเตอร์ การประมวลผลจากข้อมูลในระบบดิจิทัลที่แทนด้วยเลขฐานสอง ซึ่งหลักหนึ่งของเลขฐานสองก็คือบิต โดยใช้เลขฐานสองจำนวน 8 บิตแทนข้อมูลเท่ากับ 1 ตัวอักขระ ซี่พียูที่ใช้งานประมวลผลกันมากที่สุดขณะนี้เป็นขนาด 32 บิต แน่นอนว่าซีพียูรุ่นใหม่ๆ จะประมวลผลมากกว่าเป็น 32 บิต เป็น 64 บิต หรือ 128 บิตก็มี ซึ่งก็ทำงานการประมวลผลเร็วขึ้นถ้าประมวลผลจำนวนบิตมากขึ้นในคราวเดียว การออกแบบซีพียูซึ่งเป็นฮาร์ดแวร์ก็จะต้องทำงานร่วมกับซอพท์แวร์ซึ่งเป็นชุด คำสั่งหลักเรียกว่าโปรแกรมระบบปฏิบัติการ ที่นิยมใช้กันมากที่สุดในเครื่องไมโครคอมพิวเตอร์ที่ใช้กันทั่วไปก็คือระบบ ปฏิบัติการวินโดว์ของไมโครซอพท์ ซึ่งเป็นเหมือนคำสั่งแม่บทที่ใช้ทำงานหลักๆ ที่เกี่ยวข้องกับอุปกรณ์ที่ใช้งานอยู่เสมอ ส่วนโปรแกรมเฉพาะทางทำงานด้านหนึ่งด้านใดโดยเฉพาะนั้นก็จะเป็นคำสั่งเฉพาะเรื่องอีกต่างหาก ที่พัฒนาขึ้นจำหน่ายทางธุรกิจและถือว่าเป็นเทคโนโลยีซอพท์แวร์อย่างหนึ่ง


การพัฒนาระบบปฏิบัติการหรือที่เป็นคำสั่งแม่บทนั้น ก็ต้องพัฒนาให้สอดคล้องกับฮาร์แวร์โดยเฉพาะอย่างยิ่งซีพียูและอุปกรณ์เชื่อม ต่อ ถ้าเป็นแบบ 32 บิตก็ต้องพัฒนาซอพท์แวร์ให้สอดรับกันเป็น 32 บิต เมื่อผลิตฮาร์ดแวร์ที่มากกว่า 32 บิตขึ้นมาได้แล้ว แต่ซอพท์แวร์อาจจะยังพัฒนาไม่ทัน ก็มีการปรับให้ซีพียูขนาด 64 บิตใช้ได้กับซอพทฺ์แวร์ 32 บิตได้ แต่ถ้าจะให้ได้เต็มประสิทธิภาพก็ต้องให้ซอพท์แวร์ที่ออกแบบมาให้ตรงกับซีพียู

สภาพปัจจุบันการใช้ซีพียู และอุปกรณ์เชื่อมต่อที่พัฒนาขึ้นยังเป็นแบบ 32 บิตเป็นส่วนมาก แต่ในอนาคตอันใกล้ซีพียูและอุปกรณ์แบบ 64 บิตหรือ 128 จะเพิ่มมากขึ้น ฉะนั้นซอพท์แวร์ระบบปฏิบัติการแบบ 64 บิตก็เริ่มผลิตขึ้นมา จนกล่าวได้ว่าวินโดว์ XP , Vista ก็มีให้เลือกได้ว่าจะใช้แบบ 32 บิตหรือ 64 บิตให้ตรงกับฮาร์แวร์ ที่เกิดปัญหาก็ตรงที่ว่า บางครั้งผู้ใช้งานต้องการใช้วินโดว์เอ็กพี 32 บิตแต่นำไปใช้กับฮาร์ดแวร์ 64 บิต ซอพท์แวร์บางตัวอาจใช้งานไม่ได้ หรือเวลาตรวจเช็คสถานะของเครื่อง อาจไม่ตรงกับความเป็นจริง เช่นถ้าใส่แรมไว้ 4 กิก เมื่อตรวจสอบเครื่องจะพบแค่ 3 กิกเป็นต้น ทั้งนี้เพราะในระบบวินโดว์อาจเขียนไว้ให้รับกับแรมได้ไม่ถึง 4 กิก แต่ในวินโดว์ 64 บิตจะไม่มีปัญหาจะตรวจสอบได้ครบ

แต่ที่พบปัญหานี้ก็อาจเป็นไปได้ว่าวินโดว์ (เช่นวิสตา)ที่จะนำมาใช้กับฮาร์แวร์ 64 บิตนั้นอาจจะยังมีปัญหาที่ต้องใช้ทรัพยากรคอมพิวเตอร์มากและไม่ได้ทำให้ เครื่องเร็วขึ้นจริง จึงทำให้หันกลับมาใช้วินโดว์เอ็กพีกันอีก แต่ถ้าเลือกวินโดว์เอ็กพีที่ปรับให้ใช้ได้ซีพียู 64 บิตแล้วจะทำให้การทำงานเร็วขึ้นแน่นอน อาจจะด้วยปัญหาดังกล่าวที่ทำให้ไมโครซอพท์ต้องพัฒนาวินโดว์ 7 ขึ้นมาปรับปรุงข้อเสียของวินโดว์เอ็กพี และวิสตา ซึ่งวินโดว์ 7 คงจะวางตลาดเร็วนี้ อย่างไรก็ตามแม้ว่าซีพียู็เปลี่ยนไปอุปกรณ์เชื่อมต่อทั้งหลายก็ต้องเปลี่ยน ให้สอดรับกัน ซึ่งก็คงต้องใช้เวลาเพราะอุปกรณ์เก่าก็ยังใช้ได้ดี

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น