หน้าเว็บ

วันจันทร์ที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

ความรู้ที่ควรจะเป็น

เมื่อพูดถึงความรู้ ทุกคนจะมีได้ก็ต้องมีการเรียนรู้ นั่นก็คือจะมีความเข้าใจต่อความรู้นั้นอยู่ด้วย และมีความหมายอย่างใดอย่างหนึ่งต่อผู้ที่มีความรู้นั้น สามารถนำไปประยุกต์ใช้ต่อไปได้ในสถานะการณ์อื่นๆ หรือในบริบทอื่นๆได้ ไม่ใช่เฉพาะเพียงการรู้อย่างเดียวแต่เชื่อมโยงอะไรไม่ได้ ดังที่เราทราบกันดีว่าเป็นความรู้ที่ได้มาจากการท่องจำนั่นเอง


ความรู้ส่วนหนึ่งได้มาจากมโนทัศน์ที่แยกแยะความแตกต่างสิ่งใดสิ่งหนึ่งออกจากสิ่งอื่นๆ รวมทั้งมโนทัศน์ที่ประกอบด้วยมโนทัศน์อื่นๆ เป็นมโนทัศน์ที่มีความซับซ้อนขึ้น เป็นระบบของมโนทัศน์ในลักษณะที่มีความสัมพันธ์เชิงนิเวศ มีทั้งมโนทัศน์ที่เป็นรูปธรรมและนามธรรม

ความรู้ยังอาจหมายถึงความรู้ที่เป็นขั้นตอนวิธีการ หรือเป็นความรู้เชิงกระบวนการที่ในการทำอะไรต้องมีกระบวนการ มีกรอบความคิด มีขั้นตอนปฏิบัติ ซึ่งเกี่ยวข้องกับทักษะ ทักษะจึงเป็นความรู้อย่างหนึ่ง เป็นส่วนที่สำคัญในการดำเนินชีวิต ถ้าเน้นเพื่อให้อยู่รอดในสังคมได้อย่างสงบสุข อาจเรียกว่าทักษะชีวิต ในนั้นอาจมีทักษะวิชาชีพ มีคำกล่าวที่ว่า "มีความรู้ท่วมหัวแต่เอาตัวไม่รอด" ไปในทำนองเดียวกับ "ชาล้นถ้วย" นั่นก็คือรู้ คิดได้ทุกอย่างแต่ทำไม่เป็น ยังไม่เป็นแบบ "คิดเป็นทำเป็น"

และที่ว่าความรู้ที่ดีที่สุดมาจากประสบการณ์ ที่ประทับในความทรงจำนำมาประยุกต์ใช้ได้ ซึ่งประสบการณ์นั้นได้มาจากการไปดูไปเห็น ไปทดลอง ไปปฏิบัติให้เห็นจริงมาแล้ว จึงกล่าวได้ว่าความรู้จริงเกิดจากการปฏิบัติ และถ้าปฏิบัติจนมีทักษะแล้ว การทำงานให้ได้ประสิทธิภาพและประสิทธิพลก็ไม่ใช่เรื่องที่ห่างไกลอีกต่อไป

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น