การศึกษาในยุคอีเลินนิ่ง

กล่าวได้ว่าการเกิดอีเลินนิ่งเป็น เทคโนโลยีที่ดีที่สุดเท่าที่มนุษย์เคยสร้างมาสำหรับวงการศึกษา การพัฒนาครู พัฒนาการเรียนการสอนเพื่อผู้เรียนที่ดีกว่า อันเป็นแนวโน้มเรื่องราวของเทคโนโลยีของโลกยุคโลกาภิวัฒน์ การเติบโตเพิ่มขึ้นของความรู้แบบทวีคูณ (exponential growth) สถานะภาพของอาชีพครูในปัจจุบันไม่เป็นที่ดึงดูใจ แต่การเตรียมครูต้องการครูที่มีคุณภาพสูง ทำอย่างไรให้เกิดการเรียนรู้อย่างประหวัดในสังคมการเรียนรู้ โดยมีวิชาแกนหลัก (core subject) พร้อมเครื่องมือการเรียนรู้เชิงบริบทและเนื้อหา ที่ทำให้มีทักษะการเรียนรู้ ที่สร้างขึ้นได้ในตัวผู้เรียนเอง .....


บทบาทของอีเลินนิ่งในการพัฒนาครู ที่จะต้องรับเอาวิธีสอนแบบใหม่ การปรับปรุงทักษะ และภาวะผู้นำ ในการนำเอาความเสมอภาคทางดิจิทัล (digital equity) ที่มีการเข้าถึงได้อย่างเสมอภาค ในทุกที่ และทุกเวลา บทบาทของอีเลินนิ่งที่ผู้ใช้เป็นผู้สร้างเนื้อหาเองได้ โดยอาศัยความรู้และสารสนเทศต่างๆ การสืบค้นข้อมูลจากเครื่องจักรการค้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเครื่องจักรที่ใช้ค้นของ google ที่นิยมใช้กันมากที่สุดจนเป็น กูเกิลภิวัฒน์ (googlization) ของความรู้ที่จะสืบค้นนำมาใช้ประกอบการเรียนการสอนได้ การเติบโตของเซอร์เฟสเว็บ (surface web) และ ดีฟเว็บ (deep web) และการเติบโตของห้องสมุดเสมือนดิจิทัล วิดีโอสตรีม(video stream) ที่ทำให้การนำเสนอวิดีโอทางอินเตอร์เน็ตมีความเป็นไปได้ .........

สำหรับคำว่า surface web นั้นหมายถึงหน้าเว็บที่ผู้ใช้สามารถมองเห็นได้ในลักษณะของโฮมเพจซ์ ซึ่งมีการทำอินเด็กซ์ไว้ในฐานข้อมูล 70 ล้านหน้าโดยประมาณเทียบกับปี 2005 ที่มีจำนวนเว็บเพจซ์เพียง 1.1 ล้านเว็บเพจซ์ สำหรับเว็บเพจซ์ที่ไม่สามารถมองเห็นได้โดยตรงแต่สามารถเชื่อมโยงหรือลิงค์ เข้าไปได้นั้นจะมีจำนวนหน้ามากกว่าถึงเกือบ 600 เท่า โดยคิดเทียบเป็นเทอร์ราไบต์ก็คงต่างกันในหลักสองร้อยกับหลักแสนเทอร์ราไบต์ นี่ยังไม่รวมส่วนที่ใช้กับข้อมูลที่มีการเปลี่ยนแปลง ที่เป็นข่าวสาร และอีเมลล์ .........

จากนี้จะเห็นว่าอีเลินนิ่งนั้นเกี่ยวข้องกับเครือข่ายความรู้ (knowledge web) และเครือข่ายสังคม เครือข่ายออนไลน์ อันมีรายวิชาออนไลน์ ชุมชนสร้างความรู้ของครูและนักเรียน ในการสร้างและใช้ความรู้ร่วมกัน เป็นชุมชนออนไลน์ ที่มีส่วนช่วยทั้งครูและผู้เรียนให้ประสบผลสำเร็จ ..........

แนวปฏิบ้ติในโลกยุคไร้พรมแดนในการเรียนรู้นี้ คือเมื่อรู้ ก็ต้องรู้ว่าในกลุ่มรู้อะไรกันบ้าง และจะเพิ่มสิ่งที่กลุ่มได้รู้อย่างไร (I know … I know what the group know….. I increase what the group know)