หน้าเว็บ

วันจันทร์ที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

ความเข้าใจระหว่างผู้มีความรู้กับผู้มีการศึกษา

อาจจะกล่าวได้ว่าคนมีความรู้คือคนที่มีการศึกษา และก็กล่าวได้เช่นเดียวกันว่าคนมีการศึกษาก็เป็นคนมีความรู้ อย่างไรก็ตามความหมายของคนมีความรู้มักจะมองไปในทางที่ มีความรู้เฉพาะที่จะสร้างประโยชน์ให้เกิดกับตนเองเป็นหลัก โดยไม่ค่อยใช้ความรู้นั้นให้เกิดแก่สาธารณะมากเท่าไรนัก ดังนั้นจึงไม่เป็นเรื่องแปลกที่เราจะเห็นคนเก่งมีความรู้สูงเคยสอบได้ที่ 1 ของประเทศเรียนจบถึงปริญญาขั้นสูงสุด ทำผิดฉ้อฉลถึงติดคุก บางคนก็ติดคดีฉ้อโกงมีมลทินไปตลอดชีวิต ก็ไม่รู้ว่าจะหาความสุขได้อย่างไร เหมือนกับว่าคนที่มีความรู้สูงนั้นไม่มีศาสนาแห่งธรรมอยู่ในหัวใจ ไม่มีคำว่าเสียสละ ให้อภัย และให้ทานอยู่ในหัวใจ ใช้แต่ความรู้ที่จะเอื้อประโยชน์ให้ตนเองและพวกพ้อง เหมือนกับว่าแยกแยะว่าอะไรผิดอะไรถูกไม่เป็นเสียยังงั้นแหละ บทเรียนจากประวัติศาสตร์ก็มีให้เห็นมากมายผู้ยิ่งใหญ่ทั้งหลายต้องอำมหิต ผู้มีอำนาจทั้งหลายต้องโหดเหี้ยม ไม่ต่างอะไรกับปัจจุบันที่เป็นซากเดนของวัฒนธรรมตะวันตกที่จ้องที่จะแข่งขันจะเอามาเป็นของตัวเอง โดยไม่คำนึงถึงว่าจะมีผลกระทบต่อผู้อื่น จะทำร้ายทำลายประเทศอย่างไร เหมือนมีอะไรมาบังตาของท่านผู้มีความรู้ แต่ไม่ได้ใช้ความรู้ให้เกิดความสงบสุขของสังคม


เหมือนกับว่าผู้มีการศึกษาจะเป็นคำที่ดูดีกว่าว่าไม่เพียงแต่มีความรู้ แต่เป็นผู้ที่มีความรับผิดชอบรู้ชั่วดี เห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวมเป็นที่ตั้ง มีความกล้าหาญทางจริยธรรมที่อำนาจเงินไม่สามารถมาทำให้สั่นคลอนได้ อะไรดีก็ว่าดี อะไรเลวก็ว่าแล้ว อะไรไม่ดีไม่เลวก็ว่าไปตามนั้น เราจะหาคนเช่นนี้ได้อย่างไร หน่วยงานจะเจริญก้าวหน้าเมื่อมีคนมีการศึกษา ซึ่งเป็นคนดีเป็นคนเก่งก็ต้องมีความรู้ล้วนเป็นสิ่งที่ทำให้สังคมก้าวหน้ามีความสุขสงบ ไม่แข่งขันกันพิชิตโลกแต่มองหาเพื่อนร่วมทางที่จะเดินไปด้วยกันที่ต่างไปจากระบบพวกพ้องและระบบอุปถัมป์

ปัญหาก็คือว่าเราจะหาคนที่มีการศึกษาดังกล่าวได้อย่างไร คือเราทุกคนจะต้องช่วยกันสร้าง เริ่มที่ตัวเราเองก่อน และทำเป็นตัวอย่างให้กับคนอื่น ลูก หลาน น้อง พี่ เป็นต้น เริ่มจากครอบครัว เริ่มจากที่บ้านและโรงเรียน ชี้ให้เห็นถึงความมีเกียรติ มีศักดิ์ศรีสำหรับผู้ที่ทำอะไรแล้วไม่เอาเปรียบผู้อื่น ไม่โกงคนอื่น ฝึกการให้ทานและการให้อภัยเป็นสิ่งดีงามที่พึงมีอยู่ในทุกตัวคน และเคารพในความคิดเห็นซึ่งกัน โดยวิธีการใดก็แล้วแต่ เราจะเป็นของกันและกัน และถ้าเมื่อไรที่ได้ช่วยเหลือผู้อื่น ชี้ให้เห็นพิษภัยที่จะเกิดขึ้นได้แล้วส่งผลทำให้มีความสุขใจ เป็นที่ยกย่องสรรเสริญแก่ผู้อื่น รวมทั้งการกระตุ้นส่งเสริมให้ผู้อื่นมีความรู้ที่จะทำดี เพื่อสังคมส่วนรวม ก็จะทำให้แน่ใจได้ว่าความสงบสุขจะเกิดขึ้นในแผ่นดิน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น