หน้าเว็บ

วันพฤหัสบดีที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

วิพากษ์ เชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกอภิสิทธิ์

วันนี้คงพิเศษทุกวันที่ให้พิธีกรที่ผู้หญิง 4 คนมาสัมภาษณ์ท่านนายก มาช่วยกันตั้งประเด็นถามท่านนายก และวันนี้ก็มีประเด็นหนึ่งที่พิธีกรยกขึ้นมาเกี่ยวกับความคิดเชิงบวกของท่านนายกว่าเป็นอย่างไร และท่านนายกก็ตอบว่า คงจะไม่มองเชิงบวกมากเกินไป แต่มองหรือคิดที่ความเป็นจริงมากขึ้น จากที่ได้ยินคำตอบของท่านนายก ก็ทำให้คิดว่าความจริงแล้วการคิดเชิงบวกนั้นมีหลายระดับ การที่นายกตอบเช่นนี้ฟังดูเผินๆ เหมือนกับว่าไม่ได้คิดเชิงบวกแล้ว เพราะเมื่อคิดเชิงบวกก็ต้องคิดเชิงลบ แต่ที่นายกพูดนั้นดูเหมือนว่าไม่เป็นทั้งลบและบวกแต่เป็นกลางๆ ดูน่าจะเป็นคำตอบที่คลาสสิกมากที่เดียวที่นึกไม่ถึง เพราะเมื่อพิจารณาอีกครั้งแล้วยังไงก็เป็นเชิงบวกอยู่นั้นเองเำพราะไม่ได้คิดในแง่ลบ


เมื่อวิเคราะห์พิจารณาต่อไป ที่ท่านนายกพูดว่าจะมองตามความเป็นจริงมากขึ้นนั้นก็คือมองให้ใกล้เคึียงความจริงมากที่สุด มองถึงความโน้มเอียงที่เป็นไปได้มากที่สุดก่อน นั่นก็คือต้องพิจารณาไตร่ตรองก่อนจึงจะคิดมองถึงความเป็นจริงได้มากที่สุด คือท่านนายกคิดละเอียดขึ้นในแง่นี้ก็ต้องขอชมเชยท่านนายก อาจจะเป็นเพราะว่าท่านนายกมีประสบการณ์มาแล้ว ที่มองในแง่บวกแล้วเกิดความเสียหาย แก่ส่วนรวมแก่ประเทศ จึงทำให้มองความเป็นจริงมากกว่าที่จะทำให้การตัดสินใจที่เหมาะสมที่สุดมีประโยชน์แก่ประเทศมากที่สุด เมื่อถึงจุดนี้ก็มองได้ว่าที่แล้วมานายกก็มีข้อบกพร่องที่ไม่มองความเป็น จริง จะนึกไม่ถึงหรืออย่างไรก็ตาม ทำให้ได้ข้อสรุปอีกอย่างว่าการคิดในแง่บวกบางครั้งก็เป็นสิ่งผิดพลาดไม่ถูกต้อง ถ้าไปเกี่ยวข้องกับบางคนบางกลุ่มที่ไม่เคยคิดในแง่บวกเลย

ตอนใกล้จะหมดรายการท่านนายกก็พูดเองว่า ยังเป็นปุถุชนคนธรรมดาที่ทำอะไรผิดพลาดได้เหมือนคนทั่วไป แต่เมื่อผิดพลาดก็จะต้องปรับปรุงแก้ไขสิ่งผิดพลาดนั้นไม่ให้เกิดขึ้นอีกต่อไป หากไม่อยู่เหนือการควบคุม ไม่ใช่อยู่ในความฝันหรือมองอะไรต่ำหรือง่ายเกินไป และยังเน้นว่าท่านยังมีใจเต็มร้อยที่จะทำงานแก้ปัญหาของชาติต่อไป จากคำพูดของท่านนายกที่ประมวลมานั้นฟังดูแล้วก็โดนใจ ทำให้เรามีกำลังใจในทำงานต่อไปแม้ว่าจะมีอุปสรรค์อย่างไร แม้ว่าจะเกิดเรื่องร้ายๆกับตนเองก็ตัดใจไม่ให้คิด และคิดแต่เรื่องทำงาน จึงไม่มีเวลาที่จะหมดกำลังใจหรือท้อถอย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น