อดีตสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งของประเทศสหรัฐอเมริกาถึงสองสมัย และเมื่อเล่นการเมืองก็เป็นถึงผู้ว่าการรัฐ เป็นวุฒิสมาชิกและลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิปดีสหรัฐอเมริกา ได้มีโอกาสไปฟังฮิลลาลีหาเสียงให้สามีเป็นประธานาธิปดีครังหนึ่งก็รู้ได้ถึง ความเก่งและความสามารถ มีน้ำเสียงและคำพูดที่ชัดถ้อยชัดคำ เข้าใจง่าย คราวนี้ก็เช่นกันตอนที่คุณสุทธิชัยหยุ่นสัมภาษณ์ มีความตอนหนึ่งที่ถามท่านฮิลลารี คลินตันว่า หากจะให้ฮิลลาลี คลินตันเป็นแบบอย่าง แบบเดียวกันควรจะทำอย่างไร ทำนองนี้ คำตอบที่ได้จากฮิลลารี สะท้อนอะไรหลายอย่างในสังคมไทย ท่านตอบด้วยน้ำเสียงที่ชัดเจนเข้าใจง่ายและอย่างอารมณ์ดี 3 ประการคือ
ข้อแรกท่านตอบ ว่าการศึกษา ต้องมีการเตรียมตัว กายใจ ด้วยการศึกษาเรียนรู้ต่างๆ ที่จำเป็น พูดง่ายๆ ต้องมีความรู้ ความสามารถ มีปัญญานั่นเอง ทำให้ก้าวสู่นักการเมืองที่มีคุณภาพได้ ถ้ามองมุมกลับกับของประเทศไทยแล้ว ที่มีปัญหาทางการเมืองมากมาย อาจเป็นตัวบ่งชี้ชัดถึงการศึกษาบ้านเรายังด้อยคุณภาพ แม้ว่าเราจะรู้จุดอ่อนดีแต่ก็ยังไม่สามารถที่จะพัฒนาให้อยู่ในระดับที่เป็น คุณภาพมาตรฐานในภาพรวมได้
ประการที่สองท่านให้มองออกไปนอกตัวให้ไกล นอกตัวเอง ญาติมิตร พวกพ้อง คนรวยก็ต้องศึกษาคนใจ ต้องเรียนรู้ให้เข้าใจ ขณะเดียวกันคนจนกว่าก็ต้องเรียนรู้เข้าใจคนที่รวยกว่าและต้องปฏิบัติให้เหมาะสมตามฐานะ คนรวยก็ต้องเสียภาษีมากเป็นธรรมดา และเรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกันช่วยเหลือเกื้อกูลกัน แม้ว่าจะมีความคิดเห็นที่แตกต่าง ไม่เฉพาะกลุ่มของต้นเองหรือผู้ที่มีแนวคิดแบบเดียวกัน
ข้อที่สาม ที่ท่านตอบนั้น ให้เป็นตัวของท่านเอง หรือเป็นตัวของตัวเองซึ่งในสังคมตะวันตกนั้นเน้นมาก ในอเมริกาเองถึงกับถือว่าเป็นเป้าหมายอย่างหนึ่งของการศึกษาทีเทียว เพราะเขาเชื่อว่าการได้แสดงออกตามความคิด ความเชื่อของตนเองโดยไม่มีใครมามีอำนาจเหนือ ไม่มีใครมาปลุกปั่นยุยง จะมีความซื่อสัตย์ต่อตัวเอง และไม่ใช้ความรุนแรง สามารถช่วยให้สังคมอยู่เย็นเป็นสุขและเกิดความยุติธรรมได้ ซึ่งคำตอบประการที่สามนี้มีความเกี่ยวพันธ์กับคำตอบข้อที่ 1 คือการศึกษา ที่สร้างคนให้มีความสามารถมีความเชื่อมั่นในตนเอง ไม่งอมืองอเท้า รอความช่วยเหลือจากผู้อื่นแต่ถ่ายเดียว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น