หน้าเว็บ

วันศุกร์ที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

เทียบเคียงกระบวนการยูโทรฟิเคชั่น

ความจริงกระบวนการนี้มีทั้งที่เป็นเองในธรรมชาติ ที่บริเวณใดที่อุดมสมบูรณ์มากอาจทำให้พืชสัตว์ชนิดหนึ่งเจริญเติบโตได้ดีกว่าชนิดอื่นๆ ถ้าเป็นดินก็มีอาหารของพืชที่เหมาะกับพืชบางชนิดสูง ซึ่งต่อมาอาจทับถมกันเกิดอาการเน่าเสียไม่เหมาะที่จะเป็นอาหารของพืชต่อไป ก็จะกลายเป็นบริเวณที่แห้งแล้งต่อไป ความจริงกระบวนการนี้อาจเกิดขึ้นได้จากการช่วยของมนุษย์ก็ได้ ดังในกรณีที่มีการใช้สารทำความสะอาด สารซักล้างกันมาก และตกค้างอยู่ในน้ำปล่อยไปตามคูระบาย ไปตกค้างอยู่ในคูระบาย และสารเหล่านี้ก็เป็นอาหารของพืชบางชนิดได้ดี ดังที่เราจะเห็นว่าผักตบชวากับพืชบางชนิดเติบโตอยู่ได้ขณะที่พืชชนิดอื่นไม่ค่อยเติบโต


ถ้าเทียบกับกระบวนการทางความคิดของคน คนที่ได้รับข้อมูลข่าวสารแบบหนึ่ง และเชื่อด้วยความสนิทใจจะด้วยหลงหรือโลภที่คิดว่าจะให้ผลประโยชน์ทำให้ชีวิตดีกว่าโดยลืมไปว่าอาจจะทำให้ชีวิตผู้อื่นโดยรวมแย่ลงดังในขณะนี้ ถ้าเทียบกับกระบวนการยูโทรฟิเคชั่น(Eutrophication) แล้วก็เหมือนกับได้น้ำเลี้ยง ปุ๋ยชั้นหนึ่งที่เหมาะที่จะส่งเสริมความคิดที่ทำให้โลภหลงต่อไป ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิดที่จอน ดิวอี้เคยกล่าวไว้ว่า มนุษย์อาจเจริญไปในทางที่เลว ดังเช่นคนที่ฝึกหัดเป็นขโมย ก็พัฒนาไปในทางที่ชำนาญขึ้น หรือถ้าเป็นนักการเมืองก็จะพัฒนาไปในทางที่ทำได้ชำนาญขึ้นอย่างมิต้องสงสัย (Dewey,1938 Experience and Education) เมื่อเทียบกับกระบวนการยูโทรฟิเคชั่นนั้นสุดท้ายก็มีการทำลายล้างตัวเอง ที่ไม่อาจเติบโตต่อไปได้ แต่ถ้าพัฒนาไปในทางที่ดีสังคมก็อาจยืนยงต่อไปได้นานกว่า ตามประวัติศาสตร์ทุกอาณาจักรมีการล่มสลาย แล้วเกิดอาณาจักรใหม่หมุนเวียนไปเช่นนี้จนกว่าที่จะถึงยุคพระศรีอางค์ หรือยูโทเปีย ซึ่งก็ยังอยู่ในความฝัน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น