หน้าเว็บ

วันอาทิตย์ที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

วิตามิน M

เมื่อก่อนเวลาที่ไม่ค่อยมีเงินจับจ่ายใช้สอยหรือเศรษฐกิจฝืดเคืองในบางช่วงบางเวลา ก็อาจจะพูดกันเล่นๆ ว่าขาดวิตามิน M แต่ ที่จะกล่าวถึง วิตามิน M ต่อไปนี้ นั้นเป็นชื่อที่ใช้เรียกสารที่เรียกว่า โฟเลท หรือกรดโฟลิก หรือโฟลาซิน มาจากคำเต็มว่า กรดเทอโรอิลโมโน กลูตามิก (Pteroylmonoglutamic acid) ซึ่งเป็นวิตามินบีชนิดหนึ่งที่ละลายน้ำได้ นอกจากนี้ยังมีชื่ออื่นคือ แฟคเตอร์ยู (factor U) วิตามินบีซี (vitamin Bc) และ แลคโตบาซิลลัส เคซีไอ แฟคเตอร์ (Lactobacillus casei factor)


ใช้โฟเลสที่มีอยู่ในยีสต์รักษาโรคโลหิตจาง ได้และผลงานวิจัยพบว่ากรดโฟลิกมีส่วนในการป้องกันโรคหัวใจ โรคหลอดเลือดในสมองแตกหรือเส้นเลือดตีบตัน มะเร็งบางชนิด โฟเลทช่วยในการสร้าง RNA, DNA เป็นสารพันธุกรรมที่ควบคุมการสร้างโปรตีนที่กำหนดการเจริญเติบโต และซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของเซลล์และอวัยวะต่างๆ ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันดีขึ้น ลดบรรเทาอาการจากมะเร็งปอด มะเร็งหลอดอาหาร มะเร็งเต้านม และมะเร็งปากมดลูก ถ้าขาดกรดโฟลิคจะทำให้เป็นโรคโลหิตจาง ที่อาจถึงแก่ชีวิตได้ นอกจากนี้โฟเลทก็เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ที่ทำลายเยื่อหุ้มเซลล์ การเกิดลิ่มเลือดที่ทำให้เส้นเลือดอุดตัน ยิ่งกว่านั้นผู้ที่เป็นโรคความจำเสื่อมหรืออัลไซเมอร์พบว่าจะมีปริมาณโฟเลทในกระแสเลือดต่ำ และมีโฮโมซิสเตอีนสูง ทดลองให้อาหารหนูที่ไม่มีโฟเลทจะมีโฮโมซิสเตอีนเพิ่มขึ้นและแก่เร็ว

ดังจะเห็นแล้วว่าวิตามิน M นี้สำคัญจริงๆ ยิ่งกว่า M monney เสียอีก เราควรจะได้เสริมอาหารที่มีกรดโฟเลท ในอาหารประเภทพืชผัก โดยเฉพาะพืชผักที่มีสีเขียวเข้ม กะหล่ำปลี กะหล่ำดอก ถั่วเมล็ดแห้งและส้ม ในตับและยีสต์แห้ง การหุงต้มอาหารนานทำให้สูญเสียโฟเลทได้ง่าย จึงต้องคำนึงถึงวิธีปรุงอาหารด้วย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น