หน้าเว็บ

วันจันทร์ที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2553

กับดักเมื่อประเทศไทยติดคุกชีวิต และทางออก

หลังช่วงอาฟเตอร์ซ็อกที่ทำเอากรุงเทพฯของเราเกือบเป็นทะเลเพลิง เหมือนกับว่าเรากำลังหาทางออกจากทะเลเพลงนั้นไปเรื่อยๆ ไม่มีที่สิ้นสุด หลายคนออกมาชี้แนะทางออกของประเทศ ทางเศรษฐกิจความทำอย่างไร เชิญพระมาพูดให้เราทำความดีเห็นอกเห็นใจกัน ไม่ซ้าเติมใคร ส่วนใหญ่ก็สรุปตรงกันว่า ที่ผ่านมาไม่มีใครชนะ มีแต่แพ้กันทุกคน บ้างก็ว่าถ้าเป็นอย่างนี้แล้วคือประเทศแพ้ แต่อยากจะบอกว่าประเทศนั้นแพ้ไม่ได้ชีวิตต้องดำเนินต่อไป (life must go on) ที่จะต้องหาหนทางออกจากการที่ติดคุกชีวิต ดังที่คุณศุภวรรณ กรีน ได้เขียนไว้นานแล้วคือ


" สังคมมนุษย์กำลังเดินทางออกจากกลียุคและเข้าสู่รุ่งอรุณของยุคมิคสัญญีแล้ว จากสังคมที่มีเพียงการเห็นกงจักรเป็นดอกบัวและมือใครยาวสาวได้สาวเอานั้นเริ่มมีปรากกฏการณ์ที่มนุษย์ฆ่ากันเองด้วยความเข้าใจผิดว่า มนุษย์เป็นสัตว์ เป็นปลา เป็นผักมากขึ้น มนุษย์ยุคนี้สามารถเข่นฆ่ากันโดยไม่มีความรู้สึกผิดแต่อย่างใด เหมือนการฆ่าสัตว์ ตกปลา และเด็ดผักมาทำอาหาร ฉันใดก็ฉันนั้น ความละอายและเกรงกลัวต่อบาปได้หายสาบสูญจากจิตใจของชาวโลกกลุ่มหนึ่งอย่างสิ้นเชิงแล้ว จึงก่อเหตุการณ์ฆ่ากันตายอย่างโหดร้ายทารุณในสังคมส่วนรวม ทำให้เกิดความสับสน วุ่นวายและความทุกข์ในหัวใจของปัจเจกชนคนหนึ่งๆ ตลอดจนถึงสังคมโลกอย่างมากมาย ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ของการติดคุกชีวิต" นั่นก็คือการดำเนินชีวิตที่ไม่เป็นอิสระภาพที่แท้จริง เป็นความทุกข์ และหวาดกลัว การตรัสรู้ของพระพุทธเจ้าคือการค้นพบอิสระภาพที่แท้จริง และเป็นผู้นำพาชาวโลกออกจากคุกชีวิต มุ่งสู่ความมีอิสระภาพที่แท้จริงก็ตือพระนิพพาน นั่นคงจะเป็นหนทางที่เข้าถึงยากของคนธรรมดาสามัญที่ยังมีกิเลสก็คงจะต้องมองหาทางอื่นก่อนที่จะได้อิสรภาพที่แท้จริงอันเป็นอุดมคติ

การแก้ปัญหาเพื่อให้เกิดความสมานฉันท์ปรองดองนั้นก็คงต้องมองปัญหาให้รอบด้าน อาศัยการมองเชิงระบบของการแก้ปัญหา เป็นการปฏิบัติที่สอดคล้องกับการเป็นผู้นำชนิดใหม่ ที่ต่างสร้างแรงบันดานใจ ที่มีผลมาจากการค้นพบคุณสมบัติที่สำคัญของระบบชีวิตที่ บางครั้งคราวที่เราหรือประเทศของเราต้องเผชิญกับจุดที่ไม่มั่นคง ที่ซึ่งบางส่วนของระบบล่มสลายลง โครงสร้างใหม่ก็จะเกิดขึ้นมาแทนที่ การเกิดขึ้นของกฏระเบียบก็จะตามมาเป็นธรรมชาติอย่างหนึ่ง โครงสร้างใหม่และรูปแบบใหม่ของพฤติกรรม อันเป็นจุดสำคัญอย่างหนึ่งของชีวิต กล่าวอีกอย่างหนึ่งได้ว่าเป็นผลของการคิดสร้างสรรค์ เป็นกลุ่มของรูปแบบที่มีความใหม่อย่างแน่ชัด การมีภาวะผู้นำจะหนุนส่งต่อไปอย่างต่อเนื่องในการปรากฏของโครงสร้างใหม่ ภาวะผู้นำเชิงระบบแบบนี้ไม่ได้จำกัดอยู่ในแต่บุคคลหนึ่งบุคคลใด แต่สามารถกระจายความรับผิดชอบไปยังทุกคน แล้วจะกลายเป็นความสามารถของทั้งหมด ที่พร้อมจะทะลุทะลวงออกจากคุกชีวิตก้าวสู่อิสระภาพที่เราใฝ่หา

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น