หน้าเว็บ

วันพุธที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2553

ทฤษฎีการคิดที่เก่าแก่ที่สุด

แม้ปัจจุบันเรายังศึกษากันถึงเรื่องการคิดของมนุษย์ทำอย่างไรให้คิดได้ คิดเป็น คิดอย่างมีเหตุผล แล้วเราก็บอกว่าการที่ใครคนใดทำอะไรที่ไม่ค่อยเข้าท่าว่าคิดไม่เป็น ทั้งนี้เพราะการคิดมีผลต่อการกระทำ จากคำพูดที่ว่า คิดทำอะไรก็จะได้อย่างนั้น ถ้าคิดดีก็จะได้ดี คิดชั่วก็มักจะได้ชั่ว แต่ที่เราศึกษากันมากก็คือทำอย่างไรให้คนคิดอย่างมีวิจารณยาน คิดอย่างมีสร้างสรรค์ และคิดได้อย่างมีเหตุมีผล ซึ่งการคิดทั้งสามที่กล่าวมานั้น เป็นการคิดที่พึงประสงค์อยากจะให้มีขึ้นในตัวคน เพราะคนที่มีการคิดทั้งสามอย่างนี้เกิดขึ้นในตัวแล้ว จะเป็นคนที่ไม่เป็นพิษเป็นภัย มักจะไม่คิดในทางชั่วร้ายนั่นเอง


ทฤษฎีการคิดที่เก่าแก่ที่สุดที่ได้อธิบายว่าการคิดเกิดขึ้นได้อย่างไรถึงรากที่มา และยังได้อธิบายไปมากกว่านั้นถึงที่มาว่ามันก่อให้เกิดความทุกข์สุขอย่างไร อันชี้ให้เห็นว่าการคิดก่อให้เกิดอารมณ์และส่งผลก่อให้เกิดการคิดอีก มีอารมณ์รักโลภโกรธหลง ก็เพราะการคิด และพื้นฐานที่มาที่ก่อให้เกิดอารมณ์ ก็คือความรู้สึกหรือเวทนาจากการรับรู้ และก่อให้เกิดความจำหรือสัญญา นั่นคือการรับรู้ ความรู้สึก อารมณ์ นำไปสู่การปรุงแต่งคือการคิดซึ่งก็คือสังขารของเรา อันเป็นภาวะทางจิตล้วน ที่มีใจหรือวิญญาณเป็นเป็นที่ตั้งที่รับสภาวะทางจิตทั้งหลาย ทฤษฎีการคิดที่ว่านี้ก็คือขันธ์5 โดย 4 ใน5 ส่วนนั้นเกี่ยวข้องกับการคิด อีกส่วนหนึ่งอ้ันได้แก่รูปที่มีองเห็นจับต้องได้นั้นก็เป็นสิ่งที่อยู่เคียงคู่กับจิตอันเป็นตัวคิด กายที่ไม่มีจิตหรือไม่คิดก็เหมือนกับท่อนไม้ จิตที่ไม่มีกายหรือกายที่เสื่อมสลายตายไปก็คงเป็นได้แค่วิญญาณหรือพล้ังงานรูปหนึ่ง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น