บางคนอาจจินตนาการว่าคงต้องใช้ลิฟซ์ยกขึ้นไป หรือยิงจรวจขึ้นไปในอวกาศที่อยู่ในสภาพไร้น้ำหนัก คือปราศจากแรงดึงดูดทำให้ไม่ต้องใช้อะไรรองรับน้ำ แต่วิธีดังกล่าวนั้นก็สิ้นเปลืองมากเกินไป วิธีการที่ง่ายที่สุดคือเราต้องสร้างเมฆ โดยการทำไอน้ำให้มากๆ แล้วกลายเป็นเมฆในที่สุด เมฆไม่ต้องมีอะไรรองรับบางครั้งเวลาฝนตกลงมาท่วมทั้งเมืองได้ก็มาจากเมฆ ถ้าคิดเป็นน้ำหนักก็น่าจะหลายร้อยตัน
หลายคนเกิดความสงสัยว่าน้ำลอยอยู่ในอากาศได้อย่างไร ซึ่งก็ลอยอยู่ได้ในสภาพของไอน้ำ ซึ่งการที่ลอยอยู่ได้แสดงว่าต้องเบากว่าอากาศโดยทั่วไป ถ้าลอยอยู่สูงมากมากๆ ก็จะอยู่ในสภาพของละอองน้ำแข็ง เรื่องนี้เราก็เห็นได้ชัดว่าเมื่อต้มน้ำ เมื่อน้ำเดือดก็มีไอน้ำ น้ำเหลวกลายเป็นไอน้ำ ในไอน้ำนั้นไม่ได้มีแต่ไอน้ำเล็กๆ หรือโมเลกุลของน้ำเท่านั้นยังมีแกสอื่นผสมอยู่ด้วยเช่นแกส ออกซิเจน ไนโตรเจน หรือคิดง่ายๆ ว่าไอน้ำเป็นในรูปของโมเลกุลของน้ำนั้นเล็กมากจนมองด้วยตาไม่เห็นเราก็เห็นเป็นอากาศธรรมดา แต่ที่เราเห็นเป็นไอน้ำขณะหุงต้ม หรือจากพวยกานั้น เมื่อของเหลวกลายเป็นไอทีอุณหภูมิเกือบ 100 องศานั้น เมื่อออกมากระทบอากาศซึ่งมีอุณหภูมิต่ำกว่ามากก็กลั่นตัวเป็นหยดน้ำให้เห็น แต่เมื่อถ่ายทอดความร้อนให้อากาศโดยรอบแล้วไอจะค่อยๆ หายไป เป็นอากาศอีก ดังนั้นในอากาศทั่วๆ ไปก็มีไอน้ำเป็นองค์ประกอบอยู่มาก ซึ่งถ้ามีไอน้ำอยู่มากเราก็บอกว่าอากาศมีความชื้นมากนั่นเอง
เมื่อไอน้ำลอยตัวสูงขึ้นรวมตัวกันเป็นเมฆแล้ว มีการเคลื่อนตัวตามการเปลี่ยนแปลงของอากาศ ยิ่งรวมตัวกันมากเท่าใดความหนาแน่นของไอน้ำก็จะมากขึ้นเริ่มที่จะหนักกว่าอากาศทั่วไปก็ลอยตัวต่ำลง เกิดฝน ฟ้าแลบ ฟ้าผ่าได้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น