หน้าเว็บ

วันอังคารที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2553

ความรู้สึกต่อกระแสพระราชดำรัสเนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา

ผมได้ฟังกระแสพระราชดำรัสอันแสดงถึงพระอัฉริยภาพของพระองค์ท่านหลายประการ ถ้าหากได้โน้มนำมาคิดให้ลึกซึ้งแล้ว สามารถนำเป็นแนวทางการปฏิบัติในภาวะปัจจุบันได้ทุกระดับ เป็นพระราชดำรัสที่มีความลึกซึ้งอย่างไม่น่าเชื่อ ทำให้เราได้เข้าใจเศรษฐกิจพอเพียงที่พระองค์ท่านได้พระราชทานมาให้ลึกซึ้งมากยิ่งขึ้น พระองค์เปรียบเทียบเรื่องความสามัคคีจากชีวิตของพระองค์ท่านให้เห็นแจ่มชัดว่าความสามัคคีดีอย่างไร พระองค์ได้ชี้ให้พวกเรามีเหตุผลที่ถูกต้องไม่ว่าจะกระทำเรื่องใดๆ เราต้องมีความรู้มีข้อมูล ทรงชี้แนะเรื่องพลังงานทดแทนด้วยไบโอดีเซลและแกสโซฮอล เพื่อลดการนำเข้าน้ำมัน ซื้อขายอะไรก็อย่าได้ขาดทุนซึ่งจะทำได้เช่นนั้นทรงแนะว่าให้ทำเอง ทรงแนะวิธีแก้ไขค่าเงินบาทแข็งอย่างเรียบง่ายเข้าใจ และทรงเตือนสติทุกคนให้รู้จักใช้เงินในทางที่เหมาะสม ให้คนมีเงินใช้เงิน มากกว่าให้คนไม่มีเงินใช้เงินโดยการไปกู้เงิน ทรงชี้แนะไม่ให้คนไทยหลงงมงายในเรื่องโชคลาง จากการยกตัวอย่างเรื่องสีประจำวันเกิดเป็นอุทาหรณ์ให้ฟัง และท่านทรงเตือนให้คนไทยได้ตระหนักมีความรอบคอบดำเนินชีวิตอย่างพอเพียงไม่เร็วเกินไป ที่ผมเล่ามานั้นเป็นเพียงส่วนหนึ่ง ที่พอจำได้ นับเป็นบุญที่คนไทยได้รับพระมหากรุณาธิคุณอย่างล้นเหลือจนหลายคนอดกลั้นน้ำตาไว้ไม่ได้ในการฟังพระราชดำรัสคราวหนี้


ผมได้รับโทรศัพท์จากคนที่รู้จักและได้ฟังพระราชดำรัสก่อนที่จะมีการถ่ายทอดด้วยทีวีพูลทั่วประเทศในเวลา 20 นาฬิกา และเล่าให้ฟังสิ่งที่พระองค์ท่านตรัส ชื่นชมในพระราชดำรัส แต่บอกเหมือนกับว่าพระองค์ท่านตรัสถึงนายกตีความได้ว่าท่านนายกรัฐมนตรียังมีข้อบกพร่องทำงานอะไรได้ไม่มาก อีกคนหนึ่งที่รู้จักโทรมาคุยตอนหลังที่ถ่ายทอดเสร็จ สรุปตรงกันว่าพระองค์ท่านตรัสชม ไม่ได้มีอะไรบ่งชี้เลยว่าท่านนายกจะเป็นไปตามที่คนแรกเล่าให้ฟัง ซึ่งผมอยากจะชี้ให้เห็นว่าการมีความเข้าใจที่แตกต่างกัน ซึ่งอาการลักษณะนี้เป็นลักษระที่ฟังไม่ได้จบถ้อยกระบวนความ บางครั้งก็มีรายการทีวีที่นำนำกระแสพระราชดำรัสมาเพียงบางส่วน ซึ่งอาจทำให้ผู้ฟังเข้าใจผิดได้ เช่นเดียวกันคนแรกที่โทรมาบอกผมนั้นคง จะไม่ได้ฟังตลอดหรือฟังจากวิทยุไม่ต่อเนื่อง แต่คนหลังที่โทรมาบอกนั้นเข้าใจว่าน่าจะฟังกระแสพระราชดำรัสอยู่ตลอดเวลาจนจบ

เหตุการณ์ที่เล่าดังกล่าวแล้ว ทำให้เราต้องมานั่งพิจารณาว่าจะเชื่ออะไรก็ต้อง พิจารณาเหตุผล ก่อนจะตัดสินอะไรให้รอบคอบซึ่งจะไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิดต่อกัน อันนำมาซึ่งความแตกแยกแตกสามัคคี และพระองค์ท่านได้เตือนพวกเราว่าอย่าได้ดำเนินชีวิตด้วยความรีบร้อนเกินไป ทำความเข้าใจต่อกันให้มากด้วยความรอบคอบอย่างมีสติ แล้วเราจะอยู่ร่วมกันได้อย่างสงบสุขบนแผ่นดินนี้ ไม่ล่มจมแน่นอนครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น