ผมได้มีโอกาสไปงานศพนักศึกษาคนหนึ่งเมื่อเร็วๆนี้ เป็นนักศึกษาที่ใกล้จะจบการศึกษา กำลังทำโครงงานจบใกล้เสร็จ ไปถ่ายรูปรับปริญญากันก็แล้ว แต่ก็มีปัญหาด้านสุขภาพเป็นโรคภูมิแพ้ โลหิตเป็นพิษ หรือมะเร็งในเม็ดโลหิตก็ไม่แน่ชัด ซึ่งได้ไปโรงพยาบาลพบหมอมาแล้ว รับการบำบัดด้วยแผนปัจจุบัน ขณะเดียวกันก็รักษาแผนไทยด้วย และเพื่อให้มีกำลังใจมากขึ้นก็ไปพบหมอดูด้วย แน่นอนว่าหมอดูก็คงบอกว่ายังมีเคราะห์ก็ให้ไปเปลี่ยนชื่อใหม่ และก็ได้ไปเปลี่ยนชื่อเรียบร้อยแล้ว
ตอนที่มีอาการหนักไม่ทราบว่ายาแผนปัจจุบันกับแผนไทยจะไปด้วยกันหรือไม่ หรือเพราะเป็นอาการของโรคที่จะเป็นไปอย่างนั้น ครั้งแรกถูกนำไปโรงพยาบาลเอกชนทางโรคพยาบาลก็รับไม่ไหวน้ำลงท้องถึงขึ้นต้องเจาะ ติดเชื้ออวัยวะภายในเริ่มไม่ทำงาน โรงพยายาลเอกชนที่ว่าทันสมัยแล้วก็ยังต้องส่งต่อโรงพยาบาลมหาราช แต่พอถึงโรงพยายาลมหาราชแล้ว ก็ต้องมีการตรวจบัตรคนไข้ เพราะชื่อไม่ตรงกันเพราะไปเปลี่ยนมาแล้วก็ทำให้เสียเวลาอยู่ส่วนหนึ่ง ห้องรพ.ก็เต็มอีกต้องใช้เตียงสำรองอีก มีเข้าคิวอยู่ก่อนก็มี บางคนที่รออยู่ก่อนเสียชีวิตไปก็มี จึงได้ขึ้นมาแทน และหวังต่อไปว่าถ้าได้ไปรพ.มอ.ก็จะเร็วขึ้นเมื่อติดต่อไปก็เต็มอีกไม่ว่าง สุดท้ายนักศึกษาของเราก็จบชีวิตลง ด้วยความเสียดาย ด้วยความอาลัยของผู้ปกครองย่อมเสียใจเป็นธรรมดา ทั้งหมดนี้ได้รับการเล่ามาจากงานศพที่ไปร่วมจึงเป็นเรื่องเคราะห์ร้ายที่น่าเศร้า บางครั้งแม้จะมีหนทางน้อยแต่ก็ได้พยายามให้ถึงที่สุดดีกว่าหมดอาลัยเพียงอย่างเดียวสำหรับผู้ซึ่งอันเป็นที่รัก และ ถ้าทางรพ. รับรู้ในเรื่องเหล่านี้ก็คงจะมีมาตรการเปลี่ยนแปลงการปฏิบัติให้ประชาชนได้อุ่นใจมากขึ้น และเป็นที่พึ่งของคนที่แท้จริง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น