ในกลุ่มนักสร้างสรรค์ (creationist) ที่เชื่อว่าพระเจ้าเป็นผู้สร้างทุกอย่างรวมทั้งสร้างโลก ถือว่าการสร้างสรรค์ดังกล่าวก็เป็นวิทยาศาสตร์อย่างหนึ่ง นั่นก็คือวิทยาศาสตร์การสร้างสรรค์ (creation scinece) ไม่ได้มีหลักปฏิบัติเหมือนกับสาขาวิทยาศาสตร์ที่เราใช้กันอยู่โดยทั่วไป นักสร้างสรรค์พยายามให้ความเห็นโต้แย้งว่าทัศนของพวกเขาควรจะกำหนดให้น้ำหนักเท่ากันกับการสอนทฤษฎีวิวัฒนาการในโรงเรียนภาคบังคับ เพราะการนำเสนอเป็นทางเลือกทางวิทยาศาสตร์ แต่ก็เป็นที่น่ายินดีว่าเมื่อพิจารณากรณีร้องเรียนกันในศาล ทำให้ได้ทราบกลวิธีที่ใช้อุบายที่จะนำเสนอการสอนศาสนาในโรงเรียนภาคบังคับซึ่งยังไม่เป็นที่ยอมรับ จากทัศนทางวิทยาศาสตร์ปัญหาของพวกสร้างสรรค์นิยมก็คือเป็นไปไม่ได้ที่จะพิสูจน์ว่าการสร้างสรรค์นั้นผิด ไม่ว่าหลักฐานอะไรที่เราพบ คำตอบจะอยู่ในรูปที่ว่า นั่นแหละเป็นแนวทางที่สิ่งต่างๆ สร้างขึ้นมา
มีตัวอย่างอันข้อโต้แย้งกันทั่วไปที่มีต่อนักสร้างสรรค์ก็คือ เราสามารถมองเห็นดวงดาวที่อยู่ห่างไกลออกไปนับพันล้านปีแสง นั่นคือแสงต้องใช้เวลาเดินทางมายังเราเป็นเวลาพันล้านปี ดังนั้นโลกของเราคงไม่สามารถที่จะสร้างขึ้นมาเมื่อหกพันล้านปีมาแล้ว นักสร้างสรรค์ให้คำตอบคำถามนี้ตามสิ่งที่พวกเขาเรียกว่าเป็นลัทธิสร้างสรรค์โบราณกาล (doctrine of created antiquity) โดยลงความเห็นว่าแสงได้ถูกสร้างสรรค์ขึ้นตามทางที่ผ่านไปขณะนั้น ที่มองเห็นสิ่งต่างๆ เมื่อพันล้านปีมาแล้ว ซึ่งทำให้เป็นไปไม่ได้ที่แสงจะเพิ่งถูกสร้างสรรค์ขึ้น ซึ่งขัดแย้งกับสิ่งที่มีการบันทึกไว้ นอกจากนี้นักวิทยาศาสตร์สามารถพิสูจน์ความสัมพันธ์ที่เกี่ยวเนื่องต่างๆ ในทางดาราศาสตร์และจักรภพวิทยาได้ แต่อย่างไรก็ตามการยอมรับข้อดีที่มีประโยชน์ของการมีพระเจ้าเป็นเป้าหมายสุดท้ายของการปฏิบัติ ซึ่งก็ยากที่จะให้ยอมรับในทางวิทยาศาสตร์ปัจจุบัน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น