ในบล็อกที่แล้วมาผู้เขียนได้เล่าเรื่องย่อๆ ของภาพยนต์เรื่อง Inception ที่กล่าวถึงการสร้างฝัน ฝันร่วมกัน เหมือนกับการจิตนาการ การนอนหลับอยู่แต่ความฝันจากจิตใต้สำนึกของตัวเอง ก่อให้เกิดพฤติกรรมใหม่ๆ หากใครสักคนสามารถควบคุมความฝันของอีกคนหนึ่งได้ก็เหมือนกับสามารถที่จะสกดหรือจูงจิตได้ ภาพยนต์เรื่องดังกล่าวดูจะเป็นเพียงมายา แต่ก็อดคิดไม่ได้ถึงสภาพสังคมไทยที่หลงยึดติดอยู่ในมายา การปลูกฝัน จูงจิตให้จิตนาการไปต่างๆ นานา โดยเฉพาะเรื่องการละลึกชาติว่าเคยเป็นโน่นเป็นนี่มาก่อน
ทำให้หวลนึกถึงเมื่อครั้งประมาณ 30 ปีมาแล้วที่เมื่อครั้งเป็นวิทยาลัยครู คุณผัน วิสูตรนักสกดจิต ได้มาสกดจิตหมู่นักศึกษาในห้องประชุม โดยพยายามสกดจิตโดดจูจิตนักศึกษาขณะนั้นให้คล้อยตามไปที่ละนิดแล้วให้หลับ หลับลึก แล้วจูงต่อไปว่า ให้นึกย้อนกลับไปในอดีต เรืีอยๆ ไปยนถึงวัย ทารก และวัยที่อยู่ในท้องแม่ แล้วเลยไกลไปอีกเมื่อครังอดีตที่ยังไม่มาเกิด หรือชาติที่แล้วว่าไปประสบ พบเจออะไรมาบ้าง แล้วจูงกลับมาปัจจุบัน แล้วเลยไปในอนาคตว่า จะเป็นอะไร มีอาชีพอะไร แล้วก่อนที่จะปลุกให้ตื่นจากการถูกสะกดจิต บางคนก็ร้องห่มร้องให้ เพราะไปเจอสภาพที่น่าสงสารของญาติมิตร พ่อแม่
เมื่อนักศึกษาตื่นขึ้นมาจากการถูกสกดจิต แล้วผู้เขียนได้ไปสัมภาษณ์เชิงลึกนักศึกษาคนหนึ่งว่า เมื่อถูกชักจูงไปในอนาคตนั้นเธอจะได้เป็นอะไร ได้รับคำตอบสำหรับนักศึกษาคนนั้นว่า จะกลับมาเป็นอาจารย์ที่สถาบันแห่งนี้อีก แต่ผมรอยู่จนใกล้จะเกษียณแล้วก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะกลับมาเป็นอาจารย์ จึงคิดได้ว่า การสะกดจิต จูงใจในลักษณะนี้ ทำให้คนที่ถูกสะกดจิตนั้นหลงไปกับความฝัน หรือมายาคติ สร้างความคลุมเคลือให้กับความเป็นจริงและความฝัน และจิตใต้สำนึก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น