พลังขับเคลื่อนองค์กรไม่ใช่อะไรอื่น คือความรู้ที่สั่งสมอยู่ในองค์กร คนในองค์กร แหล่งความรู้ในองค์กร ที่เกิดจากประสบการณ์ในการทำงาน ได้ฝึกฝนปรับปรุงขัดเกลาอยู่ตลอดเวลาในชีวิตประจำวัน ที่องค์กรได้เปลี่ยนไปเป็นผลผลิต เพิ่มมูลค่าให้ผลผลิต หรือเป็นสินค้า และบริการที่มีมูลค่า การคิดเรื่องความรู้ที่ชัดเจนได้กลายเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งยวดอย่างรวดเร็วในปัจจุบัน ในการจัดการความรู้ขององค์กร ความสามารถในการวัดประโยชน์ต่างๆ ที่ได้รับเป็นเรื่องสำคัญ เช่นประโยชน์ที่ได้จากการเติบโต จากนวัตกรรม โดยวัดผลผลิต นวัตกรรมและบริการใหม่ รวมทั้งการวัดผลงานการวิจัยและพัฒนา วัดหาโอกาสด้านต่างๆที่เพิ่มขึ้น วัดตลาดใหม่ๆ ที่เพิ่มเข้ามา และวัดความสามารถในการคิดนวัตกรรม
ความรู้ที่สั่งสม บันทึก เก็ยรวมรวมไว้จะไร้ประโยชน์ถ้าไม่มีการนำมาใช้ ดังนั้นในแต่ละองค์กรมีภาระหน้าที่แตกต่างกันไป งานต่างๆ ก็แตกต่างกัน แม้ว่าจะเป็นเหมือนกันแต่ความสามารถความชำนาญจะไม่เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับการเรียนรู้ในการขับเคลื่อนให้เป็นองค์กรการเรียนรู้ ที่จะต้องมีการสร้างความรู้ การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ สร้างสภาพแวดล้อมให้เอื้อต่อการเรียนรู้ สร้างโอกาสในการเรียนรู้ตลอดชีวิต พัฒนาความร่วมมือเป็นภาคี เป็นเครื่อข่ายความร่วมมือ โดยความรู้จะเป็นตัวกำหนดความสามารถหลักขององค์กรที่มีประสิทธิภาพหรือมีคุณภาพ เพื่อจะให้ได้ผลผลิตที่ทรงคุณค่า รวมไปถึงการกำหนดความสามารถหลักของบุคคลากรที่เกี่ยวข้องที่พึงมี ซึ่งจะนำไปสู่การสร้างระบบผู้เชี่ยวชาญ มีผู้เชี่ยวชาญที่เป็นมืออาชีพที่ส่งผลให้ได้ผลผลิตที่มี ประสิทธิภาพและประสิทธิผล
ในการบริหารจัดการก็แน่นอนว่าต้องเน้นที่กลยุทธ์ที่ถูกต้อง ต้องคิดผลลัพธ์ให้ออกแล้วทำให้เกิดผลลัพธ์นั้น ผู้บริหารจะต้องคิดอะไรก็ตามที่สามารถทำให้องค์กรอยู่รอดปลอดภัย ทำอย่างไรให้คนในองค์กรเก่ง ดี มีประสิทธิภาพในการทำงาน โดยมีผลผลิตที่ขายได้ เป็นที่ต้องการ และมีจุดขาย ซึ่งจำเป็นต้องสร้างคนให้มีความมั่นใจในตัวเอง มีความคิดสร้างสรรค์ การเข้าถึงความรู้ภายในองค์กรจึงเป็นสิ่งสำคัญยิ่งที่ ทำอย่างไรให้ทุกภาคส่วนขององค์กรเข้าถึงข้อมูลสารสนเทศรวมทั้งแหล่งเรียนรู้ คลังความรู้ที่องค์กรมี ที่จำเป็นอย่างพร้อมเพรียงและทั่วถึง ซึ่งเป็นที่แน่ชัดแล้วว่าการวัดขีดความสามารถอย่างหนึ่ง คือการแข่งขันกันที่ความเร็วในการเข้าถึงแหล่งความรู้ของบุคลากร
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น