กระถินณรงค์ (เทพา)ที่ไม่ธรรมดา

ในมหาวิทยาลัยของเราได้ปลูกต้นกะถินณรงค์ไว้หลายที่ เช่นที่ถนนหลังอาคารเกษตรตลอดแนวถนนและบางส่วนหน้าอาคาร 11 ซึ่งเมื่อสังเกตดูหลังจากที่ออกดอก แล้วมีผลสีเขียวคล้ายฝักถั่วแต่แปลกออกไป ที่มีลักษณะม้วนตัวขดไปมาคล้ายลำไส้ ที่สามารถที่ยืดออกมาได้ แต่เมื่อถามเหตุผลว่าทำไมจึงเป้นเช่นนั้น อาจตอบแบบกำปั้นทุบดินที่บอกว่าก็มันเป็นเช่นนั้นเอง หรือธรรมชาติของมันเป็นเช่นนั้นเอง อย่างไรก็ตามก็มีผู้ที่พยายามศึกษาหาคำตอบว่าน่าจะมาจาสาเหตุใด คงหนีไม่พ้นว่าลักษณะยีนที่ควบคุมลักษณะทางกรรมพันธ์เป็นเช่นนั้น ถ้าถามว่าทำไมอีก มีผู้พยายามหาคำตอบได้อีกว่า ตอนที่แบ่งเซลล์ของพืชส่วนนี้การแบ่งเซลล์ที่ผนังเซลแต่ละด้านไม่เท่ากันทำให้โค้งงอขดเป็นวง แต่ถ้าถามต่อว่าทำไมจึงต้องแบ่งเซลล์ให้ไม่เท่ากัน ก็คงหนีไม่พ้นว่าพันธุกรรมมันเป็นอย่างนั้น ถ้าถามต่อว่าทำไม่พันธุกรรมเป็นเช่นนั้นก็คงจะต้องลงลึกไปถึงประวัติความเป็นมาถิ่นที่เกิด เริ่มแรกเป็นอย่างไร ซึ่งการถามต่อไปในลักษณะนี้ ถ้าไม่มีประโยชน์ก็เอาเท่าที่ได้ก็แล้วกัน เพราะในโลกนี้ไม่มีอะไรที่จะตอบได้สมบูรณ์ไปหมดทุกเรื่อง เป็นธรรมชาติของวิทยาศาสตรอย่างหนึ่งว่า ไม่มีความแน่ชัด และมีความไม่แน่นอน ขึ้นอยู่กับว่าใครคิดหาเหตุผล หาหลักฐานมาได้ดีก็ก็ยอมรับของคนนั้นไป
สำหรับผลของกะถินณรงค์ ไม่เห็นมีคนนำไปกินเป็นอาหาร ก็ต้องมีเหตุผลอะไรบางอย่าง เมื่อทดลองชิมรสดูมีทั้งฝาด ทั้งเปรี้ยวและขมอยู่ในตัว ซึ่งผู้รู้เรื่องนี้ได้เล่าให้ฟังว่ามีสารพิษอยู่ไม่สามารถนำมารับประทานเป็นอาหารได้ และอีกอย่างที่เคยมีการสังเกตกันมาถ้าปลูกไว้ริมคูน้ำ สระน้ำ เมื่อผลแห้งหล่นลงไปในแหล่งน้ำ มีสารพิษที่อาจทำให้กุ้งหอยปูปลาอยู่ไม่ได้เลย จึงน่าศึกษาว่าในผลของต้นกะถินณรงค์นี้ มีสารอะไรสำคัญที่เป็นพิษ จะพัฒนาต่อไปเป็นยารักษาโรคบางชนิดได้หรือไม่ หรือนำไปทำเป็นยากำจัดสิงมีชีวิตในน้ำบางอย่างที่ไม่ต้องการ หรือขจัดพืชน้ำบางอย่างที่ไม่ต้องการได้หรือไม่ นอกจากการปลูกขึ้นมาเพื่อลดความเสื่อมโทรมของป่า เพราะต้นกะถิ่นณรงค์ ปลูกง่ายตายยาก สามารถเจริญเติบโต้ได้แม้สภาพแห้งแล้ง ในดินเกือบทุกชนิด และเติบโตเร็ว มีแนวคิดที่จะนำมาทำเป็นแหล่งพลังงานชีวมวล รวมทั้งนำไปทำเยื่อกระดาษได้
ผลของต้นกะถินณรงค์เมื่อผลแก่จัดจะกลายเป็นนีน้ำตาลเข้ม แลฝักที่ขดอยู่แตกออกมีเมล็ดที่ยังไม่หลุดจากฝักจะมีเยื่อสีส้มยึดเมล็ดไว้ เมื่อหลุดสามารถปลิวไปตกได้ไกล เหลือแต่ฝักสีน้ำตาลเข้มหล่นอยู่ใต้ต้นเกลื่อนไปหมดบางครั้งก็ดูรำคาญตา เมื่อเร็วๆนี้ มีข่าวเกี่ยวกับต้นกะถิ่นณรงค์ ที่ต.ปากนครที่รีสอทตาลคู่ถ้าจำไม่ผิด ได้พบต้นไม้ประหลาดที่มีส่วนผสมระหว่างต้นไมยราบยักษ์กับต้นกะถินณรงค์ ดูๆ แล้วพืชสองชนิดนี้ไม่น่าจะมาผสมกันได้เลย แต่เท่าที่ดูในรูปนั้น(จากผู้จัดการออนไลน์) ปลายใบกะถิ่นณรงค์มียอดแตกออกมาเป็นใบไมยราบยักษ์ แลมีบางกิ่งแตยอดออกมาเป็นใบไมยราบยัก ถ้าเป็นเช่นนี้จริงน่าจะศึกษาว่า เมื่อผสมกันลักษณะนี้แล้ว ดอกผล จะเป็นอย่างไร ลำต้นจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร น่าศึกษาไปหมด ใครสนใจศึกษาก็ไปขอดูตัวอย่างได้ที่ตาลคู่รีสอทแล้วกัน