เรามักจะได้ยินว่ามีคนเป็นโรคนอนไม่หลับ อยู่บ่อยๆ โดยมีสมุติฐานของโรคต่างๆ กัน ซึ่งถ้าเป็นมากๆ ก็ถึงขั้นต้องใช้ยาทำให้นอนหลับ แต่สำหรับที่คนง่วงอยากนอนในเวลาที่ไม่ควรง่วง ไม่ควรนอน ก็น่าจะเป็นโรคอย่างหนึ่งเหมือนกันและก็เป็นกันมากพอๆ กับโรคนอนไม่หลับ สำหรับคนที่คิดได้ว่าเป็นโรคง่วงหรือที่เรียกกันว่า นาร์โคเลฟซี (narcolepsy) ได้นั้น มักจะเป็นคนที่หลับได้ง่ายแม้ในเวลาที่ไม่ค่อยเหมาะสม ผู้ที่เป็นโรคนี้จะรวมเอาอาการอื่นๆ รวมอยู่ด้วย เช่นนอนหลับกลางวัน ชอบมองเห็นในสิ่งที่ไม่เป็นจริงหรือเกิดภาพหลอน เพ้อฝัน และที่สูญเสียกำลัง กล้ามเนื้อไม่มีแรงอย่างฉับพลัน หรือที่เรียกกันว่า แคทธาเพล็กซี (cataplexy)แล้วตามด้วยอาการที่แสดงอารมณ์มากมาย

ผู้ที่เป็นโรคง่วงนาร์โคเลฟซี่ จะมีอาการปรารถนาอย่างแรงกล้า อยากนอนอย่างที่ไม่อาจจะควบคุมได้ ในวันหนึ่งๆ อาจเกิดขึ้นหลายๆ ครั้ง  อาการจะเกิดขึ้นในช่วงเวลาอาจไม่กี่นาทีไปจนถึงหลายชั่วโมงก็มี  สำหรับอาการง่วงนอนที่ไม่อาจควบคุมได้นั้นเป็นอันตรายอย่างยิ่งสำหรับขับขี่ ยวดยาน เพราะอุบัติเหตุเกิดขึ้นได้การการง่วงหลับไปโดยไม่รู้ตัว ก็น่าจะเข้าข่ายโรคนี้ได้  และเข่้าใจว่าน่าจะมีคนที่เข้าข่ายเป็นโรคง่วงกันมากบ้างน้อยบ้าง จึงมีวิธีการต่างๆ ที่จะแก้ง่วง ตั้งแต่ดื่มเครื่องดื่มที่ผสมกาเฟอิน ตั้งแต่น้ำชากาแฟ เครื่องดื่มน้ำดำ ไปจนถึงยาชูกำลังต่างๆ ที่ออกฤทธิ์ให้หายห่วงได้
 

อย่างไรก็ตามแต่ละคนก็คงเคยมีอาการง่วงเหงาหาวนอน ในขณะที่ไม่ใช่เวลาที่ควรจะนอน บางครั้งเป็นเวลาที่ควรจะนอนแต่ไม่ได้นอนต้องฝืนง่วงเพราะมีความจำเป็น บางอย่าง  ที่เห็นบ่อยนักศึกษานั่งหลับขณะฟังคำบรรยาย ผู้เข้าร่วมประชุมหลับ บางคนหลับแบบไม่มีคนรู้ว่าหลับ แต่บางคนหลับแบบสัปงกให้เห็น ด้วยอาการไม่ค่อยน่าดูนัก ซึ่งทำให้เสียบุคลิกภาพไป ทำให้รู้สึกได้ว่าในการทำงานคงจะไม่ค่อยมีประสิทธิภาพมากนัก  เพราะคนเราเมื่อง่วงนอนการทำงานอะไรก็ตามขณะที่ง่วงจะให้ได้ดีนั้นยากมาก  บางคนพยายามแก้ง่วงโดยการทำรายตนเอง โดยการหยิกตามเนื้อตามตัว ภายหลังพบว่าเป็นจ้ำช้ำเขียวก็มี บางคนถึงกับพูดว่านี่ถ้าไม่ง่วงนอนคงเป็นใหญ่เป็นโต ประสบผลสำเร็จในหน้าที่การงานไปนานแล้ว

ในรายที่ควบคุมความง่วงไม่ค่อยจะได้ มักตามด้วยการงีบหลับเป็นนิสัย ก็เป็นการแก้โรคง่วงที่ดีที่สุด แต่ที่น่าจะเป็นโรคจริงๆ ก็คือเคยมีการศึกษาพบว่าผู้ที่เป็นโรคง่วงที่ควบคุมไม่ได้นั้นอาจมีพยาธิ บางอย่างในสมองที่ทำให้เกิดอาการง่วงดังกล่าว และเราอาจเคยได้ยินได้ฟังมาว่า การนอนเป็นอาการอย่างหนึ่งที่คนไม่ค่อยรู้จักพอ หมายถึงว่าถ้าง่วงอยู่ก็ยังนอนได้เรื่อยๆ บางคนก็บอกว่าแม้ว่าจะนอนมากก็ยังง่วง เหมือนกับจะบอกว่านอนมากนอนน้อยก็ยังง่วง อาการง่วงนอนที่ควบคุมไม่ได้ที่ทำให้หลับโดยไม่รู้ตัว นั้นถือว่าไม่มีสติอยู่กับตัวแล้ว การง่วงเหงาหาวนนอนที่เกิดพอดี มีส่วนในการลดประสิทธิภาพการทำงาน และในทางธรรมนั้นอาการง่วงก็เป็นตัวการกั้นขวางไม่ให้บรรลุธรรม จึงมีคำแนะนำในการแก้ง่วงมากมาย และสุดท้ายวิธีใดๆ ไม่ได้ผล การนอนจึงเป็นวิธีสุดท้ายที่แก้โรคง่วงได้ดีที่สุด