ความจริงคำว่าวัวหายล้อมคอกนั้นเป็นคำพังเพยที่แสดงให้เห็นถึงการ ขาดการป้องกัน ระมัดระวัง หรือวางแผนหาทางออกไว้ก่อนล่วงหน้า ไม่ได้คิดเผื่อไว้ ในระดับบุคคลเราๆ ท่านๆ ก็ให้พบบ่อยๆ ที่เราปล่อยปละละเลยจนเกิดเหตุการณ์ขึ้นแล้วค่อยหาทางป้องกัน หรือบางครั้งก็ไม่แก้ปัญหาตั้งแต่เกิดขึ้นน้อยๆ แต่เมื่อปล่อยให้เกิดมากเข้าก็ยากต่อการแก้ไขนั่นเอง เช่นเราเคยมีประสบการณ์กำจัดปลวกก็ต่อเมื่อพบว่ามันได้เข้าไปกัดแทะทำลายหนังสือในบ้านไปเกือบหมด หรือทำให้ฝ้าเพดานพังลงมา เราปล่อยให้ต้นไม้เติบโตประชิดบ้านเมื่อมีลดพัดแรงก็อาจล้มทับหลังคาสายไฟ และอีกมากมายในลักษณะเหล่านี้
ในระดับสังคมที่ไม่ได้วางแผนป้องกันไว้ให้ดีเมื่อเกิดปัญหาแล้วค่อยคิดแก้ นั้นจะทำให้ศูญเสียทรัพยากร ค่าใช้จ่ายมากขึ้นเป็นทวีคูณ จนบางที่ก็คิดกันว่าเป็นการมุ่งเน้นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้ามากกว่าการป้องกันปัญหา มีผู้เคยให้เหตุผลว่าทำไมถึงเป็นเช่นนี้นั้นอาจจะมาจากรากฐานทางวัฒนธรรมที่เคยอยู่สุขสบาย มีความอุดมสมบูรณ์มาโดยตลอดจึงไม่ค่อยคิดอะไรล่วงหน้า หรือว่าไม่ค่อยมีความจำเป็น เราจึงเป็นสังคมที่ขาดวิสัยทัศน์มานาน บางที่เมื่อมีวิสัยทัศน์ในทางปฏิบัติแล้วก็ไม่ได้ปฏิบัติให้เป็นไปตามวิสัยทัศน์สักเท่าไรนัก ภาพสะท้อนออกมาก็จะมีแผนระยะสั้นเป็นส่วนมากที่ตอบสนองปัญหาที่เป็นอยู่ขณะนั้นๆเสียมากกว่าที่จะกำหนดแผนการเพื่อเข้าสู่วิสัยทัศน์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น