การศึกษาวิจัยในเรื่องสวิตช์โมเลกุลสามมิติ ทำให้นำไปใช้ประโยชน์ในเครื่องจักรที่สร้างขึ้น ซึ่งจะทำงานเร็วมาก ปัจจุบันวงจรอิเลคทรอนิกส์ทำงานได้เร็วกว่าสวิตช์แม่เหล็กไฟฟ้าในสมองสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมนับล้านเท่า สวิตช์ที่จะใช้กันในอนาคตจะใช้อุปกรณ์พื้นฐานที่เรียกว่า nanotubes มีลักษระเป็นทรงกระบอกบางเทียบเท่าขนาดขนาดอะตอม 10 อะตอม ซึ่งเล็กกว่าที่ใช้กันในทรานซิสเตอร์ปัจจุบันถึง 500 เท่า สัญญาณไฟฟ้าใช้เวลาในการเดินทางหรือเคลื่อนที่น้อยลง และการทำงานอาจทำงานที่ความถี่ teraheartz (Trillions of การดำเนินการต่อวินาที) เมื่อเปรียบเทียบกับอัตราการทำงานของชิปไอซีในปัจจุบันที่ทำงานด้วยความเร็วที่ความถึ่ 3-4 จิกะเฮิร์ท (gigahertz:พันล้านครั้งของการดำเนินงาน)
อัตราการเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยีจะไม่จำกัดอยู่เพียงที่อัตราการคิดของมนุษย์ ความฉลาดของเครื่องจักรสามารถที่จะนำมาปรับปรุงความสามารถของตนเองในวงจรย้อนกลับ (feedback cycle) และความฉลาดของมนุษย์ที่ปราศจากการช่วยเหลือของเครื่องมือหรือเครื่องจักรอื่นๆไม่มีทางที่จะตามไล่ทันเครื่องจักร
ในวงจรการปรับปรุงความฉลาดของเครืองจักรที่มันสามารถที่จะออกแบบตัวเอง ซ้ำแล้วซ้ำอีกด้วยอัตราเร็วขึ้นๆ ซึ่งตรงกับการพยากรณ์จากสูตรที่ความเร่งของอัตราการเปลี่ยนกระบวนทัศน์ สำหรับผู้คัดค้านเห็นแย้งคือการที่อัตราเร่งของการเปลี่ยนกระบวนทัศน์ยังคงมีอยู่ต่อไป สุดท้ายแล้วจะมีอัตราเร็วเกินไปที่มนุษย์จะติดตามได้ทันนั้น จะไม่สามารถเกิดขึ้นได้ อย่างไรก็ตามการเปลี่ยนแปลงความฉลาดของชีวิตไปเป็นความฉลาดจากสิ่งไม่มีชีวิตจะเป็นแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นต่อไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น