หน้าเว็บ

วันพฤหัสบดีที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

สอนคอมพิวเตอร์ให้คิด

การพัฒนาคอมพิวเตอร์ตั้งแต่แรกเริ่มนั้นก็พยายามให้ คอมพิวเตอร์เลียนแบบการคิดของคน จากนิยามการคิดง่ายๆ ที่ว่าจะคิดได้ต้องมีความจำและการตัดสินใจ โดยนิยามนี้คนต้องคิดอยู่เกือบตลอดเวลา ยกเว้นเวลานอนหลับ เพราะต้องตัดสินใจทุกครั้งจะลุกจะเดิน วิ่ง ทำกิจกรรมทุกอย่างถ้าจำอะไรไม่ได้เลยก็คงทำอะไรไม่ได้


ที่เห็นเด่นชัดมากที่ทดลองให้คนตอบปัญหาแข่งกับคอมพิวเตอร์แล้วบอกไม่ได้ว่าใครเป็นผู้ตอบ คนหรือคอมพิวเตอร์ และคอมพิวเตอร์มักจะชนะเสมอ อีกตัวอย่างที่เห็นเด่นชัดคือ การแข่งขันหมากรุกระหว่างแชมป์โลกหมากรุกกับคอมพิวเตอร์ ซึ่งตอนแรกๆ คนชนะต่อมาพลัดกันแพ้ชนะ และมาปัจจุบันคอมพิวเตอร์ชนะตลอด ก็น่าคิดว่าทำไมจึงเป็นเช่นนั้น

เมื่อก่อนอาจจะพูดว่าจะให้เครื่องจักรทำอะไรให้คนต้องทำได้เสียก่อน แต่ปัจจุบันนั้นไม่จำเป็นที่คนต้องทำให้ได้เพราะคนสร้างเครื่องจักรให้ทำงานในสิ่งที่คนเองก็ทำไม่ได้ เช่นยกของหนักกว่าตัวเอง มองสิ่งที่มองด้วยาเปล่าไม่เห็น ไม่ว่าจะเป็นจุลินทรีย์หรือวตถุท้องฟ้าที่อยู่ห่างไกล แต่อย่างไรก็ตามคนต้องคิดหาวิธี ขั้นตอนวิธีการต่างๆ ต้องคิดได้เสียก่อน เมื่อจะให้คอมพิวเตอร์ทำอะไรให้คนต้องทราบวิธีก่อนแล้วแปลงเป็นคำสั่งให้คอมพิวเตอร์ทำงานให้ งานหลายอย่างในปัจจุบันไม่มีทางเป็นไปได้เลยถ้าใช้คนทำกับมือ

เมื่อดูสมองของคนแล้ว พบว่าสมองของคนปกติทั่วไปนั้นมีความจำมหาศาล เมื่อเทียบกับคอมพิวเตอร์ ความจำบางอย่างของคนใช้โดยอัตโนมัติไม่มีการควบคุม จะจับจะหยิบอะไรสมองต้องคำนวณตลอดเวลาจะออกแรงเท่าใด ต้องยื่นมือยืนแขนระยะทางเท่าใดจึงจะทำได้พอดี จะเดินแต่ละก้าวต้องมีการคำนวณ แต่สิ่งเหล่านี้คนมีทักษะแล้วจึงทำไปโดยเหมือนกับไม่ต้องคิด

อย่างไรก็ตามแม้ว่าสมองคนจะมีความจำมหาศาลมากกว่าคอมพิวเตอร์ที่มีการใช้กันโดยทั่วไป แต่ถ้าให้จำแข่งกันนั้นคนก็สู้คอมพิวเตอร์ไม่ได้ เพราะคนเราเลือกที่จะจำแต่คนใกล้ชิด ญาติ พี่น้อง คนในครอบครัว เพื่อนฝูงได้ดี หรืออยากจำสำหรับที่ตัวเองคุ้นเคย หรือที่รักที่ชอบ เท่านั้น ในประเด็นนี้คอมพิวเตอร์มีข้อดีมากกว่าเยอะเลย ไม่ว่าเราใส่อะไรให้คอมพิวเตอร์มันจะจำทั้งนั้นไม่ว่าจะเป็นข้อมูลอะไร ไม่มีการปฏิเสธไม่ว่าข้อมูลนั้นจะน่าเบื้ออย่างไรก็ตาม ให้จำดิกชั่นนารี หรือสารานุกรมทั้งหมดก็จำได้ คนก็ไปตามคอมพิวเตอร์อีกที เช่นการไปถามฐานข้อมูลต่าง ๆ นั่นเอง

สรุปได้ว่าคนสร้างอุปกรณ์เช่นคอมพิวเตอร์ให้คิดได้ใกล้เคียงกับคนมากขึ้นทุกที จนกลัวว่าคอมพิวเตอร์จะคิดเองได้โดยที่คนไม่ต้องควบคุม หรือคิดได้มากกว่ากว่าคนในอนาคตก็ไม่แน่

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น