บิลเกตเป็นเจ้าของหรือหุ้นส่วนใหญ่ของบริษัทไมโครซอพท์ เป็นเจ้าของผู้ผลิตระบบปฏิบัติการวินโดว์ และไมโครซอพท์ออฟฟิสซึ่งมีใช้อยู่มากกว่าครึ่งหนึ่งของโลก และติดอันดับมหาเศรษฐีของโลกอันดับหนึ่งติดต่อกันหลายปี
บิลเกตได้รับปริญญากิติมศักดิ์จากมหาวิทยาลัยฮาวาร์ด ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยที่บิลเกตเคยสมัครเข้าเรียนได้ไม่เท่าไรก็ลาออกไปประกอบธุรกิจทางด้านซอพท์แวร์คอมพิวเตอร์จนร่ำรวยอันดับหนึ่งของโลกดังกล่าวแล้ว
เขาได้รับเกียรติให้เป็นตัวแทนนักศึกษาในการกล่าวปราศรัยในพิธีรับปริญญาบัตร (comencement)การหล่าวปราศรัยเมื่อไม่นานมานี้เป็นที่น่าประทับใจอย่างยิ่ง การพูดมีอารมณ์ขันให้ความรู้สึกกับผู้ฝังที่หัวเราะและปรบมือเป็นช่วงๆ เช่นเขาพูดว่า I did the best of every who fail มีนักเขียนเขียนถึงเขาว่า Harvard s most successful dropout. แปลตามตัวก็คือเขาทำได้ดีที่สุดในบรรดาผู้ที่ล้มเหลวในการเรียน และเป็นนักศึกษาฮาร์วาร์ดที่ดรอฟไม่เรียนที่ประสบผลสำเร็จมากที่สุด
และเมื่อถึงช่วงที่น่าประทับใจกับผู้เขียนที่เข้าพูดว่า เขาได้เข้าสู่วงการธุรกิจเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ตอนแรกๆ โดยไม่รู้ถึงความเป็นไปของเพื่อนร่วมโลกที่อยู่ห่างไกล และเมื่อเขาได้มีส่วนผลักดันทำให้การติดต่อสื่อสารระหว่างคอมพิวเตอร์ได้อย่างรวดเร็วและรู้สึกว่าโลกแคบลง ทำให้เขา (บิลเกต) ทราบว่ายังมีคนอีกฝากที่อยู่ห่างไกล ยังขาดโอกาสและไม่มีความเสมอภาคเท่ากับผู้ที่อยู่ในอเมริกา โดยขาดอาหาร ทนทุกข์จากเชื้อโรคที่ในอเมริกาไม่มี เขารู้สึกเสียใจในเรื่องนี้ เขาได้เรียกร้องให้บัณฑิตที่จบการศึกษาได้ใช้เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ทั้งหลายไม่ว่าอยู่รูปแบบใด นำมาใช้ช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ ช่วยแก้ปัญหาที่มีความซับซ้อนและช่วยลดช่วงว่างและความไม่เสมอภาคของมวลมนุษย์ จากคำพูดย้ำในเรื่องความเสมอภาค (inequity) ได้รับการปรบมืออย่างกึกก้อง
บิลเกตนอกจากจะพูดแล้วเขายังได้ปฏิบัติโดยการตั้งมูลนิธิที่ได้จากผลกำไรของบริษัทในนามของเขา ที่ช่วยเหลือประชาชนผู้ยากไร้ ผู้ประสบภัยพิบัติ และจากความอดอยากเชื้อโรคทั่วโลก เป็นมูลนิธิที่มียอดเงินรวมมากที่สุดในโลกขณะนี้ เขาจึงเป็นมหาเศรษฐีที่น่ายกย่องคนหนึ่งในความรู้สึกของผู้เขียน สอดคล้องกับที่คาเนกีกล่าวว่า คุณจะตายอย่างไร้เกียรติถ้าเมือเสียชีวิตแล้วยังมีทรัพสมบัติเหลืออยู่โดยไม่ทำให้เกิดประโยชน์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น