เราเคยได้ยินคนกล่าวว่ามีคติประจำใจหรือเป็นคำคมว่า ทำวันนี้ให้ดีที่สุด และทำวันพรุ่งนี้ให้ดีกว่าวันนี้ หรืออาจจะได้ยินคำว่าจะทำทุกอย่างให้ดีกว่าเดิม และเนื่องในโอกาสที่ปีเก่ากับลังจะหมดไปและขึ้นปีใหม่ มีบางคนอาจตั้งใจไว้ว่าปีใหม่แล้วจะปรับปรุงตัวให้ดีกว่าเดิม ขยันทำงานให้มากกว่าเดิม หรือตั้งเป้าว่าจะทำอะไรใหม่ๆ ให้แตกต่างไปจากปี่เก่าที่ผ่านมา หากเราจะพิจารณาถึงความตั้งใจที่จะกระทำให้ดีขึ้นนั้นไม่ใช่เป็นเรื่องที่ง่าย แม้ว่ามีความพยายามมีความตั้งใจก็ตาม แต่ถ้าใครทำได้ถือว่าประสบผลสำเร็จอย่างสูง ทั้งนี้เพราะในการทำงานในปัจจุบันนั้นหน่วยงานต่างๆ ที่เราทำงานด้วยจะมีตัวชีวัดต่างๆ จากภายนอกเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งตัวชีวัดเหล่านี้มักจะอิงมาตรฐาน ถ้าทำได้ตามตัวเชี้วัดก็อาจคิดได้ว่าทำงาน หรือมีผลงานเป็นไปตามมาตรฐาน
เมื่อพูดถึงเรื่องมาตรฐานนั้นก็มีหลายระดับ อาจเป็นระดับขั้นพื้นฐาน ขั้นกลาง และขั้นสูง ถ้าตั้งมาตรฐานไว้สูงก็ทำได้ยากขึ้น ท้าทายมากขึ้น นอกจากนี้แล้วยังคิดได้ว่าการทำงานให้ได้มาตรฐานไม่ว่าระดับใดเกี่ยวข้องกับคุณภาพ เพราะในช่วงหลังๆ นั้นนิยามคุณภาพด้วยการที่เราทำได้ตามที่กำหนด กำหนดมาตฐานไว้อย่างไรก็ทำได้ตามนั้น ถ้าเราคิดว่าคุณภาพคือการทำได้ตามที่กำหนด น่าจะนำมาใช้ในการปรับปรุงพัฒนาให้ดีขึ้นในทุกๆ เรื่องขึ้น ถ้าในระดับบุคคลอาจกำหนดมาตรฐานที่เป็นเป้าหมายที่จะทำให้ได้อยู่ในรูปที่กำหนดไว้เป็นลายลักษณ์อักษร หรืออยู่ในใจของแต่ละบุคคลซึ่งจะเป็นอะไรก็แล้วแต่ที่จะทำให้ดีขึ้นกว่าเดิม หรือมีมาตรฐานส่วนบุคคลที่สูงขึ้น
ถ้าในระดับหน่วยงานถ้าหากว่าไม่ต้องไปคิดอะไรมาก ในการทำอะไรในปีต่อไปให้ดีกว่าเดิมก็คิดว่าอะไรที่ต้องการปรับปรุงก็ให้ตั้งมาตาฐานของหน่วยงาน ไม่ว่ากระบวนงานใดก็ตาม เมื่อทุกส่วนตกลงกันว่าจะทำตามมาตรฐานแล้วช่วยกันทำให้ได้ตามมาตรฐานนั่นก็หมายถึงการทำงานต่างๆ ได้อย่างมีคุณภาพแล้วระดับหนึ่ง และชอบที่จะต้องปรับปรุงการทำงานให้ได้ผล ให้ได้เป้าหมายที่ดีขึ้นในระยะเวลาที่กำหนด และเมื่อถึงเป้าหมายแล้วก็ต้องมีการกำหนดมาตรฐานให้สูงขึ้นไปอีก ซึ่งก็เหมือนกับว่ามีการพัฒนาให้ดีขึ้นอยู่ตลอดเวลา
การกำหนดมาตรฐานให้ละเอียดมากขึ้น ในทุกๆ เรื่องแล้ว ถ้าทำได้ตามมาตรฐานก็จะมั่นใจได้ว่าการทำงานมีคุณภาพแน่นอน และส่งผลให้เกิดคุณภาพในภาพรวมสูงขึ้นแบบก้าวหน้าแน่นอน ซึ่งจะขอยกตัวอย่างง่ายๆ เช่นการลดการใช้พลังงานของหน่วยงาน โดยกำหนดเป็นมาตรฐานดังนี้
1. ไม่เปิดเครื่องปรับอากาศก่อนเวลา 9.00
2. ปรับอุณหภูมิไม่ต่ำกว่า 26 องศาเซลเซียส (ต้องมีมาตรฐานเรื่องการติดตั้งเครื่องปรับอากาศให้สามารถปรับอุณหภูมิได้จริง)
3. ปิดเครื่องปรับอากาศก่อนเวลาเลิกงานก่อนไม่นอยกว่า 20 นาที
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น