หน้าเว็บ

วันพุธที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

ควันหลงวันไหว้ครูราชภัฏนคร

เมื่อถึงวันไหว้ครู อันประเพณีมาแต่โบราณแม้ว่าในมหาวิทยาลัยไม่ค่อยมีนักศึกษาเรียกผู้สอนว่าครู แต่มักจะเรียกว่าอาจารย์ แม้ว่านักศึกษาจะเรียกว่าอาจารย์แต่ผู้สอนก็มักยังแทนตัวว่าครู สำหรับในโรงเรียนจะเห็นเด่นชัดว่านักเรียนเรียกผู้สอนว่าครู และครูก็มักจะแทนตัวว่าครู ซึ่งเป็นที่มาว่าทำไมสถาบันการศึกษาระดับใดก็ยังคงเรียกว่าพิธีไหว้ครู เป็นวันที่ศิษย์ได้มาเคารพครูอาจารย์ แต่สำหรับนักเรียน นักศึกษาใหม่ก็คงจะเคารพอาจารย์เพื่อจะขอเป็นศิษย์ นักศึกษาเก่าก็จะได้ลำลึกถึงคุณงามความดีของครูอาจารย์ที่ได้ประสาทวิชาให้แก่ศิษย์ ครูอาจารย์ก็จะได้ชื่นชมในผลสำเร็จ มีกำลังใจที่จะสั่งสอนศิษย์ต่อไป แต่ไม่ค่อยมีศิษย์รุ่นพี่มาร่วมพิธีมากนัก กำลังจะกลายเป็นพิธีของน้อยใหม่ไป


สิ่งที่ศิษย์เตรียมมาตามประเพณี คือพานดอกไม้ธูปเทียนประดับดอกไม้และพืชสัญลักษณ์ ที่มีความหมาย เช่นดอกมะเขือ หญ้าแพรก ดอกเข็ม แต่อาจจะไม่ค่อยได้เห็น มีอยู่เพียงส่วนน้อย ที่มีอยู่บ้าง แต่ก็เป็นไปตามยุคสมัยที่เป็นโพสโมเดิร์นหรือเปล่าที่ว่าอะไรก็ต้องการความรวดเร็วเห็นผลทันที มีคนชี้ให้ดูรูปแบบของพานดอกไม้ว่า มีรูปแบบคล้ายๆกัน ก็คงใช้บริการร้านรับทำ เมื่อถามนักศึกษากลุ่มหนึ่งที่เตรียมเรื่องนี้ว่าทำอย่างไรก็ได้รับคำตอบว่าก็ไปจ้างเขาทำเพื่อความสะดวกและดูดี คณะกรรมการจัดประกวดไม่รู้ลำบากใจหรือไม่ในการตัดสินว่าจะใช้เกณฑ์ใด

ในพิธีได้ฟังดนตรีไทย โดยเฉพาะเสียงระนาดที่โดดเด่นไพเราะ บรรเลงเพลงที่เข้ากับบรรยากาศ โดยมีนักเรียจากโรงเรียนหนึ่งบรรเลง ความจริงชมรมดนตรีไทยของมหาวิทยาลัยเราก็มีบรรเลงอยู่เสมอ คราวนี้เปิดโอกาสให้นักเรียนมาแสดงฝีมือบ้าง ได้แต่ฝันว่าสักวันหนึ่งนักศึกษาเราจะได้เป็นตัวตั้งตัวตีเล่นดนตรีไทยแสดงฝีมือให้ได้ชื่นชม ให้ได้ภูมิใจในความสามารถ

ได้มีโอกาสรับศิษย์ที่มาเคารพ บ้างก็มอบดอกกุหลาบให้ครูอาจารย์ที่ร่วมพิธี ก็ได้ทักทายนักศึกษาที่มาทำความเคารพ ซึ่งเป็นนักศึกษาปีหนึ่งทั้งหมด บางคนก็ได้สอนแล้วบางคนยังไม่มีโอกาสได้สอนเพราะเป็นคนละคณะกัน ก็ได้สอบถามดูว่ารุ่นพี่ต้อนรับดีหรือไม่ ก็ได้รับคำตอบว่าส่วนใหญ่รุ่นพี่ยังน่ารัก ใจดี ให้ความช่วยเหลือดี นอกนั้นครูอาจารย์ ก็ยังทำหน้าที่ครูแม้เวลาอันน้อยนิดก็ยังสอนให้พรกับนักศึกษา ให้ได้ประสบผลสำเร็จมีความสุข แนะวิธีเรียน แนะวิธีให้เก่ง เป็นคนดีเเท่าที่ทำได้ในเวลาอันน้อยนิด

ปีนี้เป็นปีที่มีนักศึกษาใหม่ภาคปกติมากที่สุดเท่าที่เคยมีมา ทำให้การร่วมพิธีไหว้ครูดูคับแคบไปห้องประชุมไม่เพียงพอ แม้เฉพาะนักศึกษาปีหนึ่งแล้วก็ตาม ต้องขยายออกไปในโรงอาหาร โชคดีที่อากาศไม่ร้อนฝนโปรยปรายมาบ้าง ก็ได้แต่คิดว่าสักวันคงจะมีหอประชุมที่รองรับนักศึกษาได้มากพอร่วมพิธีได้ทั่วถึง สภาพเหมือนๆกัน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น