ความเครียด สมาธิ กับโรคมะเร็ง

มีผลการศึกษาที่บงบอกให้ทราบว่าความเคลียดมีส่วนเกี่ยวข้องกับโรคมะเร็ง โดยการรวมรวมข้อมูลและวิเคราะห์ข้อมูลพบว่า คนที่เป็นมะเร็งส่วนใหญ่เคยทำงานที่ก่อให้เกิดความเครียด เช่นเป็นผู้บริหาร หรือผู้ที่ต้องรับผิดชอบสูง ซึ่งต่อมามีผู้วิจารย์ว่า คนที่เคลียดมากๆ มีโอกาสที่จะซึมเศร้าและอาจคิดอยากตาย ร่างกายก็เลยสร้างเซลล์มะเร็งขึ้นมาเพื่อให้ตายจริงๆ ซึ่งเป็นการกล่าวลอยๆ ดูจะขาดเหตุผล


ผู้เขียนได้อ่านหนังสือชื่อทำอย่างไรให้ชีวิตยืนยาวและมีความสุขของคุณหมอเฉก ธนะศิริ ซึ่งได้อธิบายว่าปกติคนเรามีภูมิต้านทานอยู่ในตัวที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ (homeostasis) เมื่อเจ็บป่วยร่างกายจะสร้างภูมิต้านทานโรคตามธรรมชาติ จะดีไม่ดีขึ้นอยู่กับอารมณ์ ถ้าอารมณ์ดี สงบปกติ ภูมิต้านทานในตัวก็จะดีไปด้วย โดยผ่านกลไกของเม็ดเลือดขาวชนิดหนึ่งเรียกว่า ที ลิมโฟซัยด์ (T. lymphocyte) ทำหน้าที่เป็นยามป้องกันสามารถฆ่าหยุดยั้งเซลล์มะเร็งได้ ถ้าจิตเครียดเพราะมีทุกข็ หรือมีวิตกกังวล แล้วจะมีการหลั่งสารเคมีออกมาชนิดหนึ่งในเลือด สารตัวนี้จะไปทำลาย ที ลิมโฟซัยด์ ทำให้ ที ลิมโฟซัยด์อ่อนแอ เหมือนกับยามเฝ้าบ้านอ่อนแอไม่เข้มแข็งพอที่จะทำลายข้าศึกศัตรูเช่นเซลล์มะเร็งได้ และเมื่อใดจิตสงบดีเพราะสมาธิดี ที ลิมโฟซัยด์ก็จะเข็มแข็งลุกขึ้นขับไล่เซลล์มะเร็งทันที มะเร็งก็ไม่ก่อตัว

นอกจากนี้ในเลือดของคนมีเกล็ดเลือด (platelets) ซึ่งทำหน้าที่ห้ามเลือด เป็นตัวการที่ทำให้เลือดแข็งตัว ดังนั้นคนที่เคลียดผิดหวัง วิตกกังวลจะมีสารเครียดออกมาในกระแสเลือดมากผิดปกติ ทำให้เลือดเกาะกลุ่มกันแล้วไปอุดหลอดเลือดหัวใจตายได้ง่ายๆ

ได้มีการบันทึกจากผู้ที่เป็นมะเร็งระยะสุดท้าย และหมอไม่รับรองว่าจะมีชีวิตได้ยืนยาวเกินหนึ่งปี เมื่อหมอไม่รับการรักษาแล้วจึงได้มาทำสมาธิที่ประเทศไทยเพื่อจะปลงก่อนเสียชีวิต แต่ผลออกมาปรากฏว่าสามารถยืดอายุผู้ป่วยมะเร็งขั้นสุดทายไปได้หลายปี บางคนเกือบหายเป็นปกติ

อย่างไรก็ตามคำกล่าวที่ว่าจิตใจที่ดีก็ต้องอยู่ในร่างกายที่ดีด้วย ทุกคนควรจะได้ดูแลทั้งร่างกายและจิตใจให้แข็งแรง เพื่อให้มีภูมิคุ้มกันโรคได้