หน้าเว็บ

วันอาทิตย์ที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

เบื้องหลังทฤษฎีวิวัฒนาการ

จากที่ทราบกันมาแล้วว่าทฤษฏีวิวัฒนาการของชาลร์ ดาวินนั้นได้รับการเชื่อถือว่าเป็นวิทยาศาสตร์ จากหลักฐานที่พบในรูปของฟอสซิลก็ยิ่งทำให้ทฤษฏีวิวัฒนาการของชาลร์ดาวินได้รับความเชื่อถือมากขึ้น ที่ทุกชีวิตมีวิวัฒนาการมาเป็นเวลานาน แต่อย่างไรก็ตามในปัจจุบันแม้ว่าจะผ่านการวิวัฒนาการมาอย่างไร สิ่งมีชีวิตก็ยังมีรูปแบบต่างๆ อยู่ทุกรูปแบบ ทฤษฏีวิวัฒนาการอาจจะอ้างได้ว่า มีการเกิดชีวิตขึ้นใหม่ และมีการวิวัฒนาการอยู่ตลอดเวลา และเนื่องจากว่าเราไม่สามารถที่จะอธิบายได้ทุกอย่าง จึงคิดให้เป็นการสร้างสรรของพระเจ้า อะไรที่มนุษย์คิดได้ไม่ว่าดีหรือไม่ดี ก็จะกลายเป็นความประสงค์ของพระผู้เป็นเจ้า พระผู้เป็นเจ้าก็มีทั้งให้รางวัลและลงโทษ ไอน์สไตย์เคยกล่าวไว้ในบทความที่ลงในนิวยอร์คไทม์ ว่าพระเจ้าก็น่าจะลงโทษพระเจ้าด้วยเพราะเป็นความคิดของพระเจ้าทั้งนั้น


ด้วยเหตุที่แม้แต่นักวิทยาศาสตร์เองก็ยังอธิบายไม่ได้ทุกเรื่อง ทำให้มีข้อโต้แย้งกันถึงกับขึ้นโรงขึ้นศาลก็มีระหว่างการวิวัฒนาการและการสร้างสรรของพระเจ้า แน่นอนว่าทฤษฎีวิวัฒนาการของชาลร์ดาวินนั้น ไม่เชื่อในเรื่องของการสร้างสรร และหลักสำคัญมากที่สุดของทฤษฎีวิวัฒนาการก็คือการคัดเลือกตามธรรมชาติ ที่ผุ้ที่แข็งแรงที่สุดเท่านั้นที่จะอยู่รอด จากแนวคิดนี้เป็นที่วิพากษ์วิจารย์กันเป็นจำนวนมาก ซึ่งเราคงเคยได้ยินว่าทฤษฏีวิวัฒนาการน่าจะมีความบกพร่อง ในแง่ที่คนนั้นต่างไปจากสัตว์ ไม่จำเป็นว่าคนที่แข็งแรงที่สุดจะสามารถอยู่รอดได้ แต่คนที่มีความฉลาด มีปัญญาต่างหากที่สามารถอยู่รอด บางครั้งขยายความกันต่อไปว่าคือคนที่สามารถปรับตัวได้ดี อย่างไรก็ตามแม้ทฤษฎีวิวัฒนาการจะได้กล่าวถึงของการวิวัฒนาการของสมอง สัตว์ที่วิวัฒนาการจนมีสมองขนาดใหญ่คือ ลิงและมนุษย์

อีกมุมหนึ่งที่ได้มีการย้อนหลังไปในประวัติศาสตร์ก่อนที่จะมีทฤษฏีวิวัฒนาการ ว่ายุโรปสมัยนั้นเป็นยุคที่มีการล่าอาณานิคม เพราะชาวยุโรปถือว่าตัวเองเป็นชนชาติที่มีการพัฒนาสูงกว่า จึงสามารถที่จะส่งทหารเข้าไปยึดครองดินแดนต่างๆ มีการล่ามนุษย์มาเป็นทาษ ในบางที่หล้งจากที่ชาวยุโรปเข้าไปสำรวจทำให้ชนพื้นเมืองสูญพันธ์ไปก็มีดังหลักฐานในทวีปอเมริกาใต้ เมกซิโกเป็นต้น จากแนวคิดนี้หลังจากชาลร์ดาวินได้ออกสำรวจธรรมชาติ แล้วได้ตั้งทฤษฏีวิวัฒนาการ อาจอยูภายใต้การครอบงำของอานุภาพของจักรวรรติยุโรป ด้วยผู้ที่แข็งแรงที่สุดที่จะอยู่รอด ทำให้มนุษย์ต้องรบราฆ่าฟันกันอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ทำให้ทำลายล้างคนที่อ่อนแอ ทำลายธรรมชาติมากขึ้นทำให้เป็นปัญหาของโลกอยู่ในปัจจุบันก็เป็นได้ ไม่ว่าจะอยู่ในการปกครองแบบสังคมนิยมหรือสังคมประชาธิปไตยก็ตามก็ยังถูกครอบงำด้วยทฤษฎีวิวัฒนาการนี้

ในเมื่อทฤษฎีนี้เป็นต้นแบบที่ก่อให้เกิดการทำลายทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ก็น่าจะมีทฤษฎีใหม่ขึ้นมาทดแทน เช่นคนจะอยู่รอดได้ก็ด้วยความรักสามัคคี ดูแลสิ่งแวดล้อม สามารถอยู่ร่วมกับธรรมชาติได้อย่างสมดุลย์ ทุกคนต่างก็มาจากบรรพบุรุสเดียวกัน การทำลายล้างคงจะไม่เกิดขึ้นดังในปัจจุบันถ้าทุกคนได้ตระหนัก ได้รับการปลูกฝังในสังคมมากขึ้น

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น