หน้าเว็บ

วันอาทิตย์ที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

ธรรมชาติมนุษย์ตามแนวคริสเตียนและมาร์ค

มนุษย์คืออะไร แน่นอนว่าเป็นคำถามหนึ่งที่สำคัญที่สุดเท่าที่มีมา เพราว่ามีอย่างอื่นอีกมากขึ้นอยู่กับทัศนะการมองธรรมชาติของมนุษย์ของเรา ความหมายและจุดประสงค์ของชีวิตมนุษย์ ที่เราควรจะทำและอะไรที่เราหวังว่าจะได้รับ เหล่านี้ทั้งหมดมีรากฐานที่มีผลกระทบกับอะไรก็แล้วแต่ที่เราคิดว่าเป็นจริงหรือเป็นธรรมชาติที่ถูกต้องของมนุษย์ แต่ก์มีทัศนะหลายอย่างที่ขัดแย้งกันเกี่ยวกับธรรมชาติอะไรของมนุษย์ที่เป็นอยู่จริงๆ


คัมภีร์ไบเบิลมองมนุษย์ว่าถูกสร้างขึ้นโดยพระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ผู้ซึ่งกำหนดจุดประสงค์สำหรับชีวิตของเรา มาร์ค (Marx)ได้กล่าวไว้ว่า ธรรมชาติที่แท้จริงของมนุษย์ทั้งหมดแล้วคือความสัมพันธ์ทางสังคม มาร์คปฏิเสธการคงอยู่ของพระเจ้า และยึดมั่นว่าแต่ละบุคคลเป็นผลผลิตของสังคมที่เขาเหล่านั้นอาศัยอยู่

ทัศนะที่แตกต่างกันเกี่ยวกับธรรมชาติของมนุษย์นำไปสู่ผลสรุปที่แตกต่างกันเป็นธรรมดาเกี่ยวกับอะไรที่เราควรจะทำและเราสามารถทำอย่างไร ถ้าพระเจ้าเป็นผู้สร้างเราขึ้นมา และด้วยจุดประสงค์ของพระเจ้าที่กำหนดว่าเราควรจะทำอะไร และเราจะต้องมองหาไปยังท่านเพื่อขอความช่วยเหลือ ถ้าเรามาจากการสร้างของสังคม และถ้าเราพบว่าชีววิตของเราไม่ทางหนึ่งก็ทางใดไม่เป็นที่พึงพอใจ แล้วจะไม่มีทางออกที่แท้จริงจนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงสังคม (transform)

ความขัดแย้งด้านความเชื่อเกี่ยวกับธรรมชาติและวัตถุประสงค์ของชีวิตมนุษย์ มักจะแสดงตัวในแนววิธีของชีวิตที่แตกต่างกัน ในระบบการเมืองและเศรษฐกิจ และในทฤษฎีทางการศึกษาและการปฏิบัติ ทฤษฎีที่เป็นทางการของลัทธิมาร์คมีอิทธิพลเหนือชีวิตในประเทศคอมมิวนิสต์ที่ไม่มีใครที่จะตั้งคำถามต่อสาธารณะ โดยไม่ได้รับผลกระทบและอันตรายต่อการงานและเสรีภาพ

เมื่อมองในรายละเอียดของทฤษฎีอันเป็นคู่ปรับกันของธรรมชาติของมนุษย์ แม้ว่าจะมีความแตกต่างกันในเนื้อหาเป็นอย่างมาก แต่ก็มีเครืองหมายสำคัญที่คล้ายกันในโครงสร้าง ในแนวทางที่แต่ละส่วนของแต่ละลัทธิเข้ากันได้ดีที่ส่งผลให้ไปสู่แนวทางที่เป็นของชีวิต สิ่งแรกแต่ละลัทธิต่างก็กล่าวอ้างเกี่ยวกับธรรมชาติของเอกภพเป็นหนึ่งเดียวทั้งหมด การเป็นคริสเตียนแน่นอนว่ามีพันธะสัญญาที่ต้องเชื่อในพระเจ้า อันเป็นบุคคลที่มีพลังอำนาจและความรู้ไม่จำกัดมีความดีที่สมบูรณ์ผู้ซึ่งสร้างและควบคุมทุกอย่างที่มีอยู่ มาร์คปฏิเสธทุกสิ่งดังกล่าว และวิพากษ์ศาสนาว่าเป็นยาเสพติดของคน (opium of the people) ที่แยกดึงให้คนหันเหไปจากปัญหาสังคมที่แท้จริง เขายึดถือว่าจักรวาลคงอยู้ได้ปราศจากการมีผู้อยู้เบื้องหลังหรืออยู่เหนือขึ้นไป และเป็นรากฐานวัตถุนิยมในธรรมชาติ ด้วยทุกอย่างสามารถที่จะหาได้โดยกฏทางวิทยาศาสตร์ของสสาร

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น