หน้าเว็บ

วันเสาร์ที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

อิทธิพลของทฤษฎีวิวัฒนาการ2

การวิพากษ์วิจารย์เกี่ยวกับทฤษฎีวิวัฒนาการในแง่ที่ไม่ดี โดยเฉพาะมนุษย์ไม่ได้ใช้ความพอดีพอเหมาะพอควร ไม่ได้ใช้เศรษฐกิจพอเพียง เพื่อพิจารณาตั้งแต่ยุคล่าอาณานิคมก่อนที่ทฤษฎีวิวัฒนาการจะกำหนดขึ้นเสียอีก อาจจะมีส่วนให้ทฤษฎีวิวัฒนาการของชีวิตว่าเป็นการคัดเลือกพันธ์ตามธรรมชาติ คนแข็งแรง เก่ง ฉลาดจึงอยู่รอดได้ ทำให้หลงไปได้ว่าชาติตัวเองเหมาะสมที่สุดและทำให้เกิดการทำลายล้างชาติพันธ์อื่น ดังที่ปรากฏมาแล้วในการตั้งอาณานิคมที่ทำให้ชนพื้นเมืองดั้งเดิมต้องสูญพันธ์ไป ดังที่เห็นได้การทำลายล้างชาติพันธ์อื่นในสงครามโลกครั้งที่สอง และรวมทั้งสงครามล้างเผาพันธ์อื่นๆ ในหลายท้องที่บนโลกนี้ อาณาจักรแล้วอาณาจักรเล่าที่ล่มสลายไป กรีก โรม อียิป จีน กำพูชา ฯลฯ ไม่ใช่เพราะถูกทำลายไปโดยผู้ที่แข็งแรงกว่าหรือ มีความป่าเถือนกว่า หรือ ทำลายสิ่งแวดล้อมมากเกินไป เราชาวโลกถูกครอบงำด้วยทฤษฎีวิวัฒนาการหรือว่าธรรมชาติเป็นเช่นนั้นเอง


ผลสำเร็จในการพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเป็นเสมือนมีดสองคม มีประโยชน์ใหญ่หลวง แต่ก็มีโทษมหันต์เช่นกัน ถ้าหากว่ามีการนำไปใช้ในทางที่ไม่เหมาะสม หลายคนถึงกับกล่าวโทษวิทยาศาสตร์ว่าเป็นตัวการของปัญหาทั้งปวง เมื่อประชากรมนุษย์เพิ่มมากขึ้นจนก่อให้เกิดปํญหาต่างๆ โดยเฉพาะปัญหาในการดำเนินเชีวิต โรคภัยไข้เจ็บ อาหารการกิน ที่พักอาศัย เครื่องมือเครื่องใช้ หรือปัจจัย 4 อันเป็นปัญหาในการดำเนินชีวิต ซึ่งวิทยาศาสตร์ได้เข้ามาช่วยแก้ปัญหาได้เกือบหมด ขณะเดียวกันก็ก่อให้เกิดผลกระทบตามมาที่ยากต่อการแก้ไขเช่นกัน ซึ่งต้องใช้วิทยาศาสตร์ในการแก้ปัญหาต่อไป เมื่อวิเคราะห์ปัญหาสาเหตุนั้นเกิดจากการกระทำของมนุษย์ ที่ต้องการมากไปกว่าปัจจัย 4 ต้องการความสะดวกสบาย ความมั่งคั่งให้ตนเองพวกพ้องและบริวาร ต้องการเกียรติ์และการเครารพยกย่อง เป็นสาเหตุให้ต้องมีการทำลายล้างซึ่งกันและกันรวมทั้งสิ่งแวดล้อม และในที่สุดก็กลับมาทำร้ายตัวเอง และจะหาคนที่แข็งแรงและฉลาดไม่ได้เพราะจะถูกทำให้อ่อนแอกันไปหมด

สภาพการณ์ในปัจจุบัน เป็นลักษณะที่เรียกว่าเสรีทุนนิยม ที่นำมาใช้ในการสร้างความมั่งคั่ง ความสะดวกสะบายให้กับประเทศหนึ่ง แต่อาจส่งผลกระทบให้กับอีกประเทศหนึ่งโดยไม่รู้ตัว เป็นไปไม่ได้ที่ทุกประเทศจะเจริญรุ่งเรืองเหมือนกันหมด และยากจนเหมือนกันหมด และการจะดำรงสภาวะความมั่งคั่งเอาไว้ได้นั้นก็จะต้องชนะการแข่งขันในเวทีโลก แน่นอนว่าการแข่งขันกันในโลกเสรีทุนนิยมที่ไร้พรมแดน ก็จะยิ่งทำให้มีการบริโภคมากเกินความจำเป็น ทำให้มีการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างรวดเร็วก็ให้เกิดการทำลายสิ่งแวดล้อม และเกิดมลภาวะขี้นในโลกที่ยากต่อการแก้ไข การแข่งขันอย่างเสรีดูเหมือนว่าจะไปสนับสนุนตามทฤษฎีของดาวินอีก เพราะประเทศที่มีทุนมาก มีทรัพยากรมาก แบะมีทรัพยากรมนุษย์ที่มีคุณภาพมาก ก็ย่อมได้เปรียบประเทศอื่นแน่นอน เป็นเหมือนปลาใหญ่กินปลาเล็ก ผลการแข่งขนอย่างเอาเป็นเอาตายเพื่อสร้างความมั่งคั่ง และเพื่อเกียร์ติประวัติ เพื่อพิชิตโลกดังที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน กำลังนำไปสู่การล่มสลายของอาณาจักรโลกในที่สุดถ้าหากไม่เปลี่ยนแนวคิดตามทฤษฎีของดาวิน และน่าจะมีทางออกที่ดีกว่าเสรีทุนนิยมในปัจจุบัน เป็นเสรีทุนนิยมที่มีคุณธรรมมีความยุติธรรม ไม่ทำลายล้างธรรมชาติรวมทั้งมนุษย์และไม่ส่งผลกระทำสิ่งแวดล้อมดังในปัจจุบัน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น